“หมอวรงค์-ถาวร” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคไทยภักดีทัพใหญ่ เปรียบเป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่ ชูนโยบาย 5 หลัก ขจัดทุนสามานย์
วันที่ 12 มี.ค. 66 ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ พรรคไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี พร้อมกรรมการบริหารพรรคฯ เปิดเวทีปราศรัย “เมล็ดพันธุ์ใหม่ พรรคไทยภักดี” ซึ่งเป็นการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เพื่อลงรับเลือกตั้ง66 ภายใต้ชื่องาน “เสียงกรุงเทพฯ ปกป้องราชธานี”
ซึ่งในครั้งนี้ได้เปิดตัว นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชื่อดัง ที่เข้าร่วมกับพรรคไทยภักดีด้วย ท่ามกลางมวลชนมาร่วมแสดงความยินดี
โดย นพ.วรงค์ ขึ้นเวทีปราศรัยแนวนโยบายต่างๆ อาทิ ราคาก๊าซหุงต้มปัจจุบันราคาถังละกว่า 400 บาท เหลือ 225 บาท, อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ราคาถูกเดือนละ 100 บาท รวมถึงนำนักโทษหนีคดีไปต่างประเทศกลับมาติดคุก ซึ่งรัฐบาลหลายชุดไม่จัดการปัญหา หลักการดูแลบ้านเมืองที่ดีคือยึดหลักกฎหมาย ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด
ด้านนายถาวร กล่าว การเลือกตั้ง66 ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ สิ่งที่ตนปราศรัยมาตั้งแต่ต้นถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมือง รวมไปถึงนักการเมืองทุกวันนี้มีนักธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องหรือที่เรียกว่าทุนสามานย์ ทุนผูกขาดที่มองนักการเมืองเป็นหมาที่เลี้ยงไว้ ที่เชื่องและซื่อสัตย์กับพวกมัน
“ผมอาจจะเปรียบเทียบรุนแรงเกินไปหน่อย แต่ขอถามเลยว่ามีพรรคการเมืองไหนบ้างที่ไม่รับเงินจากทุนสามานย์ ทุนผูกขาด ผมเชื่อว่ามีน้อยมาก แต่ที่พิสูจน์ได้ก็คือพรรคไทยภักดี ที่ไม่รับทุนจากใคร ไม่ว่าจะเป็นทุนชั่วหรือทุนทุจริต” นายถาวร กล่าว
ขณะที่นายปราปต์ปฎล ที่ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยเป็นครั้งแรกว่า ตนทำงานจิตอาสามาตลอด ซึ่งครั้งนี้เป็นการเมืองเป็นงานจิตอาสาเพื่อประเทศชาติที่ใหญ่ขึ้นมาก ถึงแม้จะต้องสู้กับข้าราชการที่มีอำนาจในมือ แต่ตนก็ไม่หวั่น เพราะต้องการบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนที่ถูกเหยียบย่ำจากข้าราชการขี้โกง ในวันข้างหน้าถ้าท่านเจอใครมาฉ้อโกงท่านเมื่อไหร่ขอให้บอกตนและพรรคไทยภักดี การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นคือ วาทกรรมที่อยู่ในสังคมไทยมายาวนาน แต่ไม่เคยมีใครทำได้จริง แต่สำหรับครั้งนี้ ตนขอประกาศว่า จะขุดคุ้ยพวกที่โกงชาติ เพราะตนมั่นใจในความขาวสะอาดและบริสุทธิ์ของตัวเอง
“เมื่อผมเสนอตัวเข้ามาทำงานตรงนี้ ต้องการที่จะถูกขุดคุ้ย การต่อสู้ของผมที่ผ่านมาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อต้องการให้กำลังใจกับทุกคนที่ถูกข้าราชการเอาเปรียบ ต้องอย่ายอมก้มหน้ารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ หลายคนบอกว่า ผมกล้าหาญผิดที่ แต่ผมถือว่าตายเป็นตาย แต่จากนี้ไปผมจะไม่สู้อย่างโดดเดี่ยวอีกแล้ว เพราะมีพี่น้องพรรคไทยภักดีที่จะร่วมปราบคนโกงไปด้วยกัน” นายปราปต์ปฎล กล่าว
Advertisement