"เศรษฐา" ไม่พะว้าพะวัง หลังมีหลายคนจ่อเสียบนั่งนายกฯ แทนหาก 14 ส.ค.ตกเก้าอี้ ยังไม่คิดปรับ ครม. เชื่อ "ทักษิณ" ขอไปดูไบ แค่รักษาตัว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขออนุญาตศาลเดินทางไปดูไบ เพื่อรักษาตัว แต่มีคำสั่งไม่ได้รับอนุญาต จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองช่วงเดือนสิงหาคม จึงจะออกไปตั้งหลักหรือไม่ว่า ไม่แน่ใจเพราะอ่านเพียงแต่ข่าวตามหนังสือพิมพ์ ว่า นายทักษิณ จะไปพบแพทย์ แต่ศาลไม่อนุญาต เนื่องจากแพทย์ในประเทศไทยมีอยู่แล้ว และก็เข้าใจว่าแพทย์ไทยมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองเดือนนี้ใช่หรือไม่ เนื่องจากจะมีคดีสำคัญ จนอาจทำให้นายทักษิณ ต้องไปตั้งหลัก นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวกัน เพราะวันที่ 7 สิงหาเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล และวันที่ 14 สิงหาก็เป็นเรื่องของตน ส่วนนายทักษิณเอง ก็ยืนยันว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดี ม.112 และ น.ส.แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะลูกสาว ก็ออกมายืนยัน ว่าไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะไปตั้งหลักต่างประเทศ ซึ่งประเด็นดังกล่าว นายทักษิณ ระบุว่า จะออกไปเรื่องสุขภาพ แต่เรื่องอื่นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน
ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ทางการเมืองช่วงเดือน ส.ค.มีความน่าเป็นห่วงห่วง นายกฯ ได้ประเมินอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามที่ตนบอกไปเมื่อวันอังคาร 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ
เมื่อถามย้ำว่า จาก 3 คดี ช่วงเดือนนี้จึงเกิดกระแสข่าวจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯ ยืนยันว่า ยังคงทำงานกันอย่างเต็มที่ เมื่อคืนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เดินทางไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพของมารดาตน ซึ่งมีการพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมืองและการเตรียมพร้อมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันพรุ่งนี้ โดยวันนี้ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางล่วงหน้าไปวานนี้แล้ว และได้มีการเชิญ ผบ.ทร.มาหารือก่อนลงใต้ ช่วงเที่ยงวันนี้
เมื่อถามย้ำว่า หากวันที่ 14 สิงหาคม คดีของนายกฯ ไม่มีปัญหาจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ นายกฯ ระบุว่า “ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย อย่างที่บอกในคดีของตนก็จบแล้ว เพราะศาลไม่ได้เรียกขอข้อมูลเพิ่มเติมมา ซึ่งตนได้ทำคำแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็ต้องดูปัญหาบ้านเมืองอย่างเดียว ตนไม่อยากคิดไปไกลการปรับเปลี่ยน ครม. ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่เหลือ 3 ปี แน่นอนว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่มีการโยงใยกับวันที่ 14 สิงหานี้ หรือกรณีของพรรคก้าวไกลที่มีการตัดสินวันที่ 7 สิงหานี้ ฉะนั้นขออย่าไปโยง เพราะจะทำให้เกิดความซับซ้อนและเข้าใจผิดเบี่ยงเบนความสนใจในประเด็นบางเรื่องที่เราต้องทำ ไม่อยากให้รัฐมนตรีที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่มีความไขว้เขวในเรื่องนี้ ตนว่ามาทำงานกันดีกว่า”
ส่วนการปรับ ครม. พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยังอยู่ครบหรือไม่ หรือจะมีการนำของเก่าออก และเอาของใหม่เข้ามาบ้าง นายกฯ หยุดฟัง แต่ปฏิเสธตอบคำถาม
เมื่อถามต่อว่า มีความหวาดระแวงหรือไม่ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนตัว จะมีคนในรัฐบาล เข้ามาแทนหากนายกฯ หากศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ 314 เสียงมันก็แน่นอยู่แล้ว ถ้ามัวแต่พะว้าพะวัง ก็ไม่อยากให้ทุกคนที่ดูแลบ้านเมืองมาไขว้เขวกับเรื่องนี้
เมื่อถามย้ำว่าจะต้องดึงคนจากพรรคประชาธิปัตย์ มาเพิ่มเพื่อให้ 314 เสียงแน่นขึ้น นานกฯ ส่ายศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้คิดเลย โยงใยเรื่องปรับ ครม.ดึงคนมาเสียบ และการดึงคนเข้าคนออกยังไม่มีในตอนนี้ เพราะปัญหาเยอะเหลือเกินซึ่งเราต้องช่วยเหลือกัน ซึ่งท่านก็เห็นอยู่แล้วว่าปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างในทุกวันและรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป
Advertisement