เปิดตำนาน 23 ปี ประเทศไทยมี 4 นายกรัฐมนตรี ที่มาจากตระกูล "ชินวัตร"

เปิดตำนาน 23 ปี ประเทศไทยมี 4 นายกรัฐมนตรี ที่มาจากตระกูล "ชินวัตร" ทักษิณ-สมชาย-ยิ่งลักษณ์ จนมาสู่คนล่าสุด อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร

นับตั้งแต่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ประเทศไทยได้ผ่านการบริหารประเทศจากนายกรัฐมนตรีมาแล้วทั้งสิ้น 30 คน แต่กลุ่มบุคคลที่โดดเด่นและจัดว่าอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญทางการเมืองไทย คงหนีไม่พ้นบุคคลจากตระกูล "ชินวัตร" ที่สร้างประวัติศาสตร์มีนายกรัฐมนตรีที่มาจากคนในตระกูลนี้ถึง 4 คน

เริ่มต้นจาก นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศ ที่แผ้วถางเส้นทางขยับจากการเมืองท้องถิ่นมาสู่ระดับประเทศ จนนำมาสู่ความยิ่งใหญ่ อำนาจ และบารมี กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตระกูล จนในวันนี้ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด คือ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกฯ คนที่ 31 ของประเทศไทย

• ทักษิณ ชินวัตร

บุคคลที่อยู่เบื้องหลังและเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ ทักษิณ ชินวัตร สนใจงานทางด้านการเมืองก็คือ บุญเลิศ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา และเป็น สส.เชียงใหม่ ระหว่างปี 2512 - 2519 ก่อนจะลงเล่นการเมืองด้วยการสมัคร สส.ในกรุงเทพฯ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี จนไต่เต้ามาเป็นรองนายกฯ สมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา และรัฐบาล พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ ก่อนที่จะออกมาก่อตั้งพรรคการเมืองของตัวเองในชื่อ "พรรคไทยรักไทย"

จากนั้นในปี 2544 นายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก หลังพาพรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง โดยได้ที่นั่งในสภาฯ เป็นลำดับที่ 1 สร้างผลงานหลายอย่างที่ประชาชนหลายคนยังพูดถึงกันมาจนวันนี้ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการโอทอป การทำสงครามปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด โครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นต้น สร้างเสถียรภาพให้ฝ่ายรัฐบาลอย่างไม่เคยมีปรากฏมาก่อน จนสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนครบวาระ 4 ปี ถือเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยสามารถอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระได้

จนกระทั่งเข้าสู่การบริหารประเทศในสมัยที่ 2 ก็ยังเป็นรัฐบาลที่ได้รับคะแนนเสียงข้างมาก แต่ก็เกิดปัญหาภายในให้เห็น และยังถูกสังคมโจมตีในหลายเรื่อง จนมีประชาชนออกมาลงถนนประท้วงยืดเยื้อยาวนาน จนนำไปสู่ความขัดแย้งที่เริ่มลุกลามบานปลาย สุดท้ายจึงประกาศยุบสภา และมีการจัดการเลือกตั้งในช่วงเดือนเมษายน 2549 แต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้ผลการเลือกตั้งในครั้งนั้นเป็นโมฆะ

จนท้ายที่สุดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 รัฐบาลภายใต้การรักษาการนายกรัฐมนตรีของทักษิณ ได้ถูกยึดอำนาจการปกครองโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกเป็นหัวหน้าคณะ จึงถือเป็นจุดสิ้นสุดของการบริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีของ ทักษิณ ชินวัตร จนต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ก่อนจะกลับมาแผ่นดินแม่อีกครั้งในปี 2551 พร้อมซีนในตำนานอย่าง ก้มกราบแผ่นดินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายทักษิณเข้ามอบตัวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ศาลอนุมัติให้ประกันตัว หลังจากนั้นอีก 5 เดือน เขาได้ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 และไม่ได้กลับมาเหยียบประเทศไทยอีกเลย ก่อนที่จะได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และกำลังจะครบกำหนดพักการลงโทษ และพ้นโทษในสิ้นเดือนสิงหาคม 2567

• สมชาย วงศ์สวัสดิ์

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 ดำรงตำแหน่ง เมื่อ 18 กันยายน 2551 – 2 ธันวาคม 2551 รวมเวลา 75 วัน นายสมชายมีศักดิ์เป็นน้องเขยนายทักษิณ สมรสกับนางเยาวภา ชินวัตร หรือเจ๊แดง อดีตที่ปรึกษานายกฯ อดีต สส.เชียงใหม่

นายสมชายได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกฯ เหตุจากการจัดรายการ "ชิมไป บ่นไป" ซึ่งผิดกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ แต่ในขณะที่ดำรงตำแหน่งกลับถูกแรงกดดันจากมวลชนอย่างหนัก จนทำให้เกิดการปะทะและสูญเสีย จนในที่สุดวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยมีมติ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคพลังประชาชน อันเนื่องมาจากกรณีทุจริตการเลือกตั้งและตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรคและ 37 กรรมการบริหารพรรค 5 ปี ทำให้นายสมชายในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย

เป็นการปิดฉากที่แสนจะอาภัพ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวของไทย ที่ไม่เคยได้เข้าไปทำงานในทำเนียบ ต้องไปอาศัยท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นทำเนียบชั่วคราวจนถูกสอยลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

• ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หลังจากสำเร็จการศึกษาปริญญาโทจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2533 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เริ่มเข้าทำงานที่บริษัทธุรกิจของครอบครัวชินวัตร ก่อนจะถูกชักชวนจากนายทักษิณ ผู้เป็นพี่ชายให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ในปี 2554 ผลการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ปรากฏว่า พรรคเพื่อไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเลือก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนจะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ด้วยวัยเพียง 44 ปี โดยเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย

รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เผชิญกับปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองอย่างรุนแรง เช่น น้ำท่วมใหญ่ปี 54 การออกกฎหมายนิรโทษกรรม ฯลฯ ต้องเผชิญกับมวลชนที่ต่อต้านอย่างหนัก จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีมีส่วนใช้อำนาจแทรกแซงการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

และถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2558 ฐานละเลยต่อหน้าที่ต่อโครงการรับจำนำข้าว กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการจำนำข้าว และยังถูกแจ้งข้อกล่าวหาทางอาญาต่อโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งปัจจุบันคดียังไม่ถึงที่สุด โดยปัจจุบัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ

• แพทองธาร ชินวัตร

เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2529 ชื่อเล่น "อุ๊งอิ๊งค์" เป็นบุตรสาวคนเล็กของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มีพี่น้อง 2 คน คือพี่ชาย นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย และพี่สาว พินทองทา ชินวัตร จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ และมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ดีกรีจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท International Hotel Management จาก Surrey University ประเทศอังกฤษ เข้าพิธีสมรสกับ ปอ-ปิฎก สุขสวัสดิ์ ซึ่งเป็นนักบิน มีบุตรสาว 1 คน คือ ธิธาร สุขสวัสดิ์ และบุตรชาย 1 คน คือ พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์

อุ๊งอิ๊งค์เปิดตัวเข้าสู่เส้นทางการเมืองครั้งแรกเมื่อปี 2564 โดยนั่งตำแหน่งใหญ่ ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ก่อนจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถูกศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 5:4 ให้พ้นจากตำแหน่ง กรณีแต่งตั้ง “นายพิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์

และวันนี้ (16 ส.ค.) ที่ประชุมสภามีมติโหวตเลือก แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ด้วยคะแนนเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง งดออกเสียง 27 คน นับเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของไทย ต่อจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นคุณอา และยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย คือ เข้าดำรงตำแหน่งในวัยย่าง 38 ปี

นับว่าเป็นเรื่องน่าจับตามองว่าท้ายที่สุดแล้ว แพทองธาร ชินวัตร จะนำพาความยิ่งใหญ่กลับมาสู่มือของตระกูลชินวัตรได้หรือไม่ และการเข้ามารับหน้าที่แบบกะทันหันก็จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือการบริหารประเทศว่าจะเดินหน้าไปในรูปแบบใด และจะมีเส้นทางชีวิตทางการเมืองลงเอยแบบสวยงามหรือต้องต่อสู้ดิ้นรนแบบนายกรัฐมนตรีที่มาจากตระกูลชินวัตรรุ่นก่อนหน้า