นายกฯ สวมกอดให้กำลังใจผู้ประสบภัย คาดว่า 1-2 วันจะเริ่มดีขึ้น ห่วงแม่น้ำโขง -แจ้งเตือนประชาชนอยู่ใกล้แม่น้ำอิงเฝ้าระวังช่วง 18 ก.ย.นี้
(13 ก.ย.67) เวลา 14.15 น.ระหว่างการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย พร้อมมอบถุงยังชีพ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัยเป็นจุดสุดท้าย
โดยเมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังรายงานสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่จาก นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ซึ่งพบว่า สถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย ผ่านจุดวิกฤติและเริ่มดีขึ้นแล้ว โดยเฉพาะแม่น้ำกกที่น้ำลดลง คาดว่า 1-2 วัน สถานการณ์จะดีขึ้นหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม
ส่วนจุดที่น่าเป็นห่วงคือแม่น้ำโขง ที่จะไหลจากจังหวัดเชียงราย ลงสู่จังหวัดเลย และหนองคาย ที่ยังมีระดับน้ำสูงขึ้น จำเป็นต้องเสริมแนวตลิ่ง เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวมถึงสถานการณ์ในแม่น้ำอิงที่ยังน่าเป็นห่วง เพราะคาดว่าในวันที่ 18 ก.ย.นี้ สถานการณ์จะค่อนข้างหนัก
นายกรัฐมนตรี จึงได้สอบถามความแม่นยำของการแจ้งเตือน เลขาฯสทนช.จึงได้ตอบกลับว่า มีความแม่นยำถึง 90% ขณะเดียวกันได้เตรียมพร้อมการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทันที ซึ่งทางไทยได้ประสานงานกับ สปป.ลาวและจีนอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นยืนยันว่าทางจีนไม่ได้ปล่อยน้ำมาจำนวนมากอย่างที่เป็นข่าว
อีกทั้งยังได้มีการประชุมซักซ้อม และมีการแจ้งเตือนล่วงหน้ากับทางจังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะโรงพยาบาล หรือ พื้นที่เปราะบางที่จะต้องเฝ้าระวัง ดังนั้นหากประชาชนอยู่จุดไหนไม่ได้ก็จะสั่งอพยพทันที
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เยี่ยมผู้ประสบภัย และมอบถุงยังชีพ พร้อมสวมกอด และกล่าวให้กำลังใจประชาชนว่า ทุกคนเก่งมาก ขอให้ทุกคนอดทน ขณะนี้สถานการณ์น้ำดีขึ้นแล้วและรัฐบาลจะเร่งเยียวยาช่วยเหลือประชาชน เพราะทราบว่า หลายคนได้รับผลกระทบ อาทิ ที่อยู่อาศัยได้รับความสูญเสีย และถูกน้ำพัดไปทั้งหลัง จึงขอให้ช่วยกันดูแลกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้อพยพในจังหวัดเชียงรายขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1,200 คน โดยมี ผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงนานที่สุด 4 วัน
Advertisement