จากกรณีที่แอดมินเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Headache Stencil” โพสต์ภาพนิ่งกล้องวงจรปิดภายในคอนโดมิเนียม ปรากฏเป็นภาพชาย 4 คน สวมชุดลำลอง ขณะกำลังเดินออกจากล็อบบี้คอนโดฯ ในเวลา 22.33 น. ของวันที่ 24 มิ.ย.63
โดยมีข้อความระบุว่า ชายทั้งหมดอ้างตัวว่าเป็นตำรวจมาดูแลประชาชน แต่ไม่มีหมายค้น ไม่สวมเครื่องแบบ และมีความผิดปกติ เพราะมาดักรอที่หน้าทางเข้าคอนโดฯ ตอนกลางดึก ก่อนจะเดินออกจากคอนโดฯ หลังจากเห็นรถยนต์ของแอดมินเพจขับออกไป คล้ายกับมาดักรอนั้น
ล่าสุด วันที่ 26 มิ.ย.63 แอดมินเพจ Headache Stencil ผู้โพสต์ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการเก็บตัวอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย เรื่องทั้งหมดสืบเนื่องมาจากที่ผ่านมาตนเคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเมือง ด้วยการโพสภาพวาดนักการเมือง
และเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 24 มิ.ย.63 ตนก็โพสต์ภาพฉายโปรเจกเตอร์บนกำแพงวัด เป็นภาพปรีดี พนมยงค์ และภาพเกี่ยวกับการเมือง ภาพวาดใบหน้าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นพื้นหลังนาฬิกาบนกำแพง ภาพวาดปรีณา และภาพวาดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งขอทานบนกำแพง เป็นต้น
จากนั้น ช่วงบ่ายของวันถัดมา มีเฟซบุ๊กปริศนาส่งข้อความมาหาตน พร้อมถามเกี่ยวกับภาพทางการเมืองเหล่านั้นว่า ภาพวาดอยู่ที่ไหน วาดวันที่เท่าไร แต่ตนปฏิเสธให้ข้อมูล เนื่องจากทราบว่าเป็นเฟซบุ๊กของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมีรูปในเฟซบุ๊กเป็นภาพสวมเครื่องแบบตำรวจ ตนมองว่าการโพสต์ภาพเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบบุกเข้ามาในคอนโดในยามวิกาล
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขับรถกลับมาถึงหน้าคอนโดฯ เห็นชาย 4 คนสวมชุดลำลองนั่งอยู่หน้าล็อบบี้ จึงถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงตัดสินใจขับรถออกจากคอนโดฯ ก่อนจะวนรถกลับมาคอนโดอีกครั้ง ก็พบว่าชายทั้ง 4 คน หายไปแล้ว จากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้น ตนจึงได้สอบถามนิติบุคคลคอนโด ทราบว่าชายทั้ง 4 คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ มีหัวหน้าชุดตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งนิติบุคคลว่าจะมาดูแลความเรียบร้อย ตนจึงนำเบอร์โทรจากนิติบุคคลโทรศัพท์ติดต่อกลับไปยังหัวหน้าชุดตำรว พร้อมบันทึกเสียงการสนทนาไว้
จากการพูดคุย นายตำรวจยอมรับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง กรุงเทพฯ และส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาที่คอนโดฯจริง อ้างกับตนว่า ส่งคนเข้ามาดูแลความเรียบร้อยปลอดภัย ด้วยความปรารถนาดี แค่อยากคุยกับตนเท่านั้น แต่ตนมองว่าพฤติการณ์ของตำรวจที่ไม่เหมือนตำรวจ เพราะมายามวิกาล ไม่ติดต่อตนมาก่อน ไม่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สวมเครื่องแบบ ไม่มีหมายค้นใด ๆ มองว่าเกินกว่าเหตุ และทำให้รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย หวั่นถูกอุ้มตัวหรือยัดข้อหา
ซึ่งตนอยากได้รับการชี้แจงจากโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าพฤติการณแบบนี้ การทำงานแบบนี้ ใช่ตำรวจจริงหรือไม่ และตนก็พร้อมจะเดินหน้าต่อสู้ เอาเรื่องให้ถึงที่สุดเช่นกัน
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บุญพูล ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า ตนไม่เคยใช้ให้ตำรวจใต้บังคับบัญชาไปกระทำการเช่นนั้นมาก่อน ขอยืนยันว่าผู้ที่กระทำการดังกล่าวไม่ใช่ตำรวจของ สน.พระโขนง แน่นอน ซึ่งถ้าดูจากทรงผมค่อนข้างยาว อาจจะไม่ใช่ตำรวจก็เป็นได้ หรือถ้าเป็นตำรวจก็ไม่ใช่ สน.พระโขนง เพราะตนไม่คุ้นหน้า
นอกจากนี้ ตนให้ฝ่ายสืบสวนนำเบอร์โทรดังกล่าวที่มีการโทรพูดคุยกันไปตรวจสอบ พบว่าไม่ใช่เบอร์ของตำรวจ สน.พระโขนง ส่วนผู้ที่โพสต์ข้อมูลตนก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะเห็นแต่เพจ ไม่เคยเจอตัวจริง ซึ่งตอนแรกเจ้าของเพจก็จะเข้ามาพบตนเอง แต่ก็ไม่มา ถ้าเจ้าของเพจดังกล่าวรู้สึกโดนคุกคามหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย ตำรวจ สน.พระโขนงก็ยินดีที่จะไปดูแล และขอว่าอย่าโพสต์พาดพิงตนหรือตำรวจ สน.พระโขนง เพราะอาจจะสร้างเข้าใจผิดให้กับประชาชน
Advertisement