Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นายกฯโชว์ผลงานรบ. 90 วัน ย้ำคนไทย "มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี"

นายกฯโชว์ผลงานรบ. 90 วัน ย้ำคนไทย "มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี"

12 ธ.ค. 67
11:48 น.
|
119
แชร์

นายกฯ โชว์ผลงานรบ. 90 วัน ย้ำคนไทย "มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี" การันตีปี 68 นโยบายดีๆ มาเพียบ สร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม 

วันที่ 12 ธ.ค. 67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” และการมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ณ สตูดิโอ 4 อาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศการกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ 

โดยมีรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำเหล่าทัพ เข้าร่วมงานไปจำนวนมาก 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 90 วันที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาจนมาถึงวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการปรับตัว ปรับการทำงานไม่ว่าจะเป็นตนเองคณะรัฐมนตรี และเพื่อนข้าราชการทุกคน เพื่อหาแนวทางกันว่าการทำงานแบบใดที่จะสามารถอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ต่อนโยบาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้จริง ซึ่งวันนี้ทุกคนคือทีมเดียวกัน 

วันนี้เรากลับมาแล้ว เราเป็นรัฐบาลที่ร่วมมือกันทำงานเพื่อความแข็งแรงมองไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของประเทศไทย การทำงานจะเดินหน้าอย่างมั่นคง รัฐบาลจะหวังรากฐาน วางโครงสร้างที่สำคัญ ให้ประเทศไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอย่างที่ตนเคยกล่าวไป

ภาพปี 2568 จะเป็นปีแห่งโอกาสที่จับต้องได้รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม จะสร้างสิ่งที่คนที่คิดว่า เป็นแค่ความฝันให้เกิดขึ้นจริงได้ ทำให้มีนโยบายของเรา แน่นอนว่าที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งในประเทศประเทศไทย ทางด้านการเมืองมากกว่า 20 ปี ซึ่งวันนี้ทุกคนพร้อมที่จะเดินต่อไปข้างหน้า และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 

ปัญหาแรก สถานการณ์อุทกภัย และภัยแห้งแล้ง หรือดินโคลนถล่ม ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลจึงจ่ายเงินเยียวยาอย่างรวดเร็ว เพราะเชื่อว่าการเยียวยาจะสามารถช่วยประคับประคองประชาชนให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ แม้ว่าปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งจะมีมาเป็นเวลายาวนาน แต่ปัญหาดังกล่าวยังไม่เคยถูกแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ ซึ่งสิ่งที่ต้องแก้ไขไปอย่างแรก คือการเปลี่ยนวิธีคิด ทำให้น้ำมีทางออก สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ และช่วงของน้ำแล้งก็ต้องมีการบริหารจัดการให้เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค รวมไปถึงการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน 

ปัญหาต่อมาคือปัญหาฝุ่น pm 2.5 ซึ่งจะต้องมีการตั้ง KPI ให้มีตัวเลขฝุ่นน้อยลง ด้วยการลดเผาไล่เผาพืชพื้นที่ทางเกษตรต่าง ๆ ตัวอย่างเช่นพื้นที่ภาคเหนือที่ได้ลดพื้นที่การเผาไหม้ไปถึง 50 % และเรามีนโยบายไม่รับซื้อพืชผลการเกษตรที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเผา ซึ่งเรื่องนี้ต้องจริงจังมากขึ้น 

ขณะที่ปัญหายาเสพติด ที่เคยลดน้อยลงไปช่วงหนึ่ง แต่ว่าขณะนี้กลับมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ลูกหลานอนาคตของชาติไม่ปลอดภัย ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลจะเอาจริงแล้วเรื่องนี้ ขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ และสังเกต ซึ่งรัฐบาลจะทำแพลตฟอร์ม ที่สามารถแจ้งเบาะแสการขายยาเสพติดได้ ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าว จะส่งข้อความตรงมาที่นายกรัฐมนตรี เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมไปถึงการใช้โมเดลจากท่าวังผา จังหวัดน่าน เพื่อกวาดล้างยาเสพติดให้เป็นจังหวัดสีขาว ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา 

นอกจากนี้รัฐบาลมีความเชื่อการทำลายทุนผูกขาด ไม่ว่าจะภาครัฐหรือภาคเอกชน เพราะการผูกขาดทุกชนิดทำให้ประชาชนยากจนลง เช่น ข้าว ซึ่งรัฐบาลจะปลดล็อคเรื่องนี้ให้เกษตรกรทุกคนสามารถส่งออกข้าวเองได้ เกิดการสร้างธุรกิจ SME นอกจากนี้ได้สั่งการไปทุกกระทรวง ไปแก้ไขกฎระเบียบ กฎหมาย ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน 

ส่วนเรื่องของพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซ  โดยค่าพลังงานในปีหน้าจะต้องลดลงอย่างแน่นอน 

สำหรับเรื่องสุราชุมชน ที่ต้องการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้สร้างสรรค์สร้างธุรกิจของตนเอง แต่เนื่องจากมีกฎหมายเป็นจำนวนมากที่มากำจัดความคิดสร้างสรรค์ตรงนี้ 

สำหรับปัญหาธุรกิจนอกระบบ ซึ่งจะต้องนำกลับเข้ามาสู่ในระบบให้ได้ เข้าสู่ระบบภาษี สิ่งที่อยู่ใต้ดินเอาขึ้นมาอยู่บนดินให้ได้ เพราะธุรกิจใต้ดินมีมูลค่ามากกว่า 49% ของจีดีพีไทยซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก ทำให้เป็นช่องทางของมาเฟีย และเกิดคอรัปชั่นต่าง ๆ มากมาย และรัฐบาลไม่สามารถปกป้องดูแลประชาชนได้ เพราะรัฐบาลมองไม่เห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง 

ขณะที่เรื่องของการลงทุนธุรกิจแห่งอนาคต ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี AI ทำให้ต่างชาติได้เห็นว่าไทยมีความพร้อม สำหรับการเตรียมตัวรองรับธุรกิจแห่งอนาคต แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเรื่องของบุคลากร การเพิ่มทักษะประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลมีแผนลงทุนเพิ่มในส่วนของ AI หรือรถยนต์ EV รวมไปถึงเซมิคอนดักเตอร์ 

ขณะที่สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ ครัวไทยสู่ครัว โลจิสติกส์ ซอฟพาวเวอร์ เป็นสิ่งที่ระบายยังต้องดำเนินการต่อ ซึ่งรัฐบาลต้องการจะเปลี่ยนประเทศนี้เป็นประเทศแห่งเทศกาล ที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี สร้างรายได้ให้กับประเทศ และทำให้มี low season น้อยที่สุด 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีนโยบายดีๆ มากมายหลายรัฐบาล หลายยุค หลายสมัย ซึ่งตนเองต้องการสร้างนโยบายดีๆ ให้กับประเทศไทย เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนนายกไปกี่คน กี่รัฐบาล แต่นโยบายดีๆ จะยังคงอยู่กับประเทศไทยและประชาชน ซึ่งทุกนโยบายที่เกิดขึ้นหลังจากปี 2568 จะเป็นนโยบายจากที่เคยใช้อดีตกลับมาใช้ โดยก็คือ นโยบายหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน เพื่อสนับสนุนการศึกษาสร้างโอกาสการศึกษาที่เท่าเทียม ซึ่งโครงการนี้จะใช้เงินจากกองสลากเพื่อสนับสนุนเด็กไทยในระดับปริญญาตรีทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสนับสนุนให้เด็กไทยไป Summer Camp เพราะการที่ทำให้เด็กไทยไปเรียนที่ต่างประเทศ แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เชื่อว่าจะได้ประโยชน์มากมาย และนอกจากนี้จะมีการอัพเกรดโรงเรียนประจำอำเภอ เพิ่มหลักสูตรการสอนภาษา การอบรมหลักสูตร AI ซึ่งทั้งหมดนี้จะเริ่มให้ลงทะเบียนในปี 68 นี้ 

นอกจากนี้ยังจะมีโครงการ SML ที่ต้องการกระจายอำนาจสู่ชุมชน และนโยบายให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Lone) เพื่อช่วยเหลือธุรกิจ SME 

ขณะที่อยู่อาศัยของคนไทย ตอนนี้คนไทยไม่สามารถหาที่อยู่ดี ๆ ได้ เด็กจบใหม่ ก็อยากจะเก็บเงินไปซื้อบ้าน แต่สุดท้ายราคาขึ้น ซึ่งถือเป็นปัญหาของเด็กจบใหม่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะสร้าง“บ้านเพื่อคนไทย” ซึ่งจะใช้พื้นที่ของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยมีทำเลที่ดีเดินทางสะดวกใกล้แล้วรถไฟรถไฟฟ้าใกล้ตัวเมืองใกล้สิ่งของอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในประเทศ โดยจะใช้พื้นที่การรถไฟในประเทศสร้างคอนโดคอนโดมิเนียม เริ่มที่ห้อง 30 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์ดี ๆ และที่สำคัญจะไม่มีการจ่ายเงินเงินดาวน์แต่จะเป็นการจ่ายระบบค่าเช่าแทน เริ่มต้นเดือนละ 4,000 บาท ให้ผ่อนยาวไม่เกิน 30 ปีมีสิทธิอยู่ 99 ปี ซึ่งเป็นสิทธิ์เฉพาะสำหรับคนที่ยังไม่เคยมีบ้านเท่านั้น และในปีหน้าจะมีห้องตัวอย่างให้ได้รับชมแล้ว 

ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่หลายคนถามว่าจะมากี่โมง ไม่รู้แต่ตอนนี้มาแล้ว คือสายสีแดงกับสายสีม่วง ซึ่งอยากให้คุณคนไทยทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้า ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในปี 2568 อย่างแน่นอน 

ขณะที่เรื่องของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลมีความเชื่อมั่นมาเสมอว่าจะต้องมีการเติมเงินเข้าไปในระบบ เพราะว่าเงินในระบบไม่พอ จึงมีความจำเป็นที่ต้องเติมเงินเข้าไป ซึ่งรัฐบาลได้เติมเงินเข้าไปแล้วหนึ่งครั้งในกลุ่มเปราะบาง ประมาณ 14 ล้านคน ส่งผลให้จีดีพีสูงขึ้นในไตรมาสสี่เกิน 3% อย่างแน่นอน และเฟสต่อไปคือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปก็จะมีอยู่จำนวนประมาณ 4,000,000 คนจ่ายเงินได้ภายในตรุษจีนปี 68 ยืนยันไม่ได้มาในรูปแบบของซองอั่งเปา แต่มาในรูปแบบเงินสด 

ส่วนสาเหตุที่จะทำดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ให้เงินสดในเฟสต่อไป เพราะต้องการให้เศรษฐกิจท่านเข้ามามีบทบาท และมีการเชื่อมต่อระหว่างประชาชนกับรัฐบาลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เงินเยียวยาน้ำท่วม หากระบบดังกล่าวทำแล้วเสร็จจะทำให้การเชื่อมต่อประชาชนกับรัฐบาลรวดเร็วขึ้น  ซึ่งเฟส 3 ก็จะเกิดขึ้นในปี 2568 อย่างแน่นอน 

สำหรับเรื่องการแก้ไขหนี้ครัวเรือนถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งปัญหานี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยเราจะใช้ความร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทย กับ สมาคมธนาคาร เพื่อลดเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูลง 0.23% ส่งผลให้ประชาชนพักดอกเบี้ยนาน 3 ปี และเงินทุกบาทที่จ่ายจะเป็นเงินช่วยลดเงินต้น ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL รัฐบาลได้ประนีประนอมหนี้เหล่านี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชน ซึ่งเงินดังกล่าวจะสามารถช่วยเคลียร์เงินตรงนี้ได้ 

ทั้งนี้รัฐบาล รัฐมนตรีทุกคน ถือเป็นทีมเดียวกันหัวใจเดียวกัน ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน วันนี้ขอเชิญชวนทุกคนทุกภาคส่วน ทำเพื่อประเทศไทยที่เรารักเพื่อประชาชนที่เรารักระหว่างทางที่เข้มแข็งไว้ให้กับลูกหลานของเราในอนาคต 20 ถึง 30 ปีข้างหน้า ด้วยการสร้างรากฐานที่มั่นคง

Advertisement

แชร์
นายกฯโชว์ผลงานรบ. 90 วัน ย้ำคนไทย "มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี"