วันที่ 23 ธ.ค.67 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วยหาเสียงให้กับพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ในนามพรรคประชาชน
และในช่วงเช้าวันนี้ นายพิธา ได้ใช้เวลาก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง ซึ่งในส่วนของตัวผู้สมัครนายก อบจ.ก็ไปรอสมัครตั้งแต่เช้า ส่วนนายพิธา พร้อมด้วย สส.ของพรรค ได้มาเดินตลาดต้นลำไย ซึ่งใกล้กับตลาดวโรรส เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนและเดินแนะนำตัวผู้สมัครในนามของพรรค เพื่อขอคะแนนเสียงจากชาวเชียงใหม่ ซึ่งมีแฟนคลับที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาด รวมทั้งชาวเชียงใหม่ที่มาจับจ่ายใช้สอยพากันมาขอถ่ายภาพและขอเซลฟี่ด้วย บางคนก็นำดอกไม้และส้มสายน้ำผึ้งมามอบให้กับนายพิธาด้วย
ซึ่งนายพิธาพร้อมคณะยังได้แวะรับประทานอาหารเช้าที่ร้านปาท่องโก๋ โกเหน่ง ร้านดังของเชียงใหม่ ทางโจ๊กกับปาท่องโก๋ ซึ่งโกเหน่ง เจ้าของร้านทำเมนูพิเศษให้เป็นปาท่องโก๋รูปหมูเด้ง ฮิปโปแคระซูปตาร์ดัง ให้กับนายพิธาได้ลองชิมด้วย แต่ก็ได้แค่ชิมขาของเจ้าหมูเด้งเท่านั้นไม่กล้ากัดเต็มคำ โดยบอกว่าเกรงใจแฟนคลับของน้องหมูเด้ง เลยขอจัดเป็นปาท่องโก๋ไดโนเสาร์มากินแทน
นายพิธา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าการลงพื้นที่นั้นถือว่าได้มาพบปะประชาชนและมาให้กำลังใจผู้สมัครทั้งนายกอบจ.และส.อบจ.ที่ลงรับสมัครวันแรก โดยช่วงเช้ามืดวันนี้ได้มีการพาทุกคนไปสักการะอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย
รู้สึกดีใจที่ชาวเชียงใหม่ยังไม่ลืมกัน ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้มาตลาดก็ถือว่าเป็นช่วงที่คนอาจจะน้อยหน่อย โดยตนต้องรีบกลับกรุงเทพมหานค รเนื่องจากมีนักศึกษาฮาเวิร์ดมาเยี่ยม ต้องกลับไปรับที่กทม. ก็เลยยังไม่เจอกัน ตอนนี้คุณพันธุ์อาจ รัตนชัย ผู้สมัครนายกอบจ.ซึ่งไปสมัครยังไม่ได้มาสวัสดีปีใหม่ประชาชนพร้อมกัน โดยขณะนี้ตนทราบว่าทีมของพรคประชาชน นำโดยนายพันธุ์อาจ นั้น จับได้หมายเลข 1 โดยเท่าที่ทราบมาว่าถ้าพี่น้องชาวเชียงใหม่ต้องการกระจายอำนาจ อยากได้นายกอบจ.ที่ดูแลเรื่องท้องถิ่น ก็ 1 กุมภาพันธุ์ ให้กาหมายเลข 1 ให้คุณพันธุ์อาจ เป็นนายกอบจ.ของชาวเชียงใหม่คนต่อไป ซึ่งผลคะแนนที่อุบลฯยังไม่ถึงเป้าหมาย ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ นั้นทางพรรคประชาชนได้มีการตั้งเป้าหมาย โดยทุกการเลือกตั้งคือโอกาส ซึ่งแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกันคนอุบลฯก็มีความท้าท้ายและศักยภาพคนละแบบกัน
ซึ่งในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่นั้นบริบทแตกต่างกัน โดยหลังจากนี้ทีมกลยุทธ ทีมยุทธศาสตร์ ทีมแคมเปญ ก็จะมาพูดคุยกันในช่วงปีใหม่ จะขยับหมากอย่างไร ปรับทัพอย่างไร การเข้าศึก 1 กุมภาพันธ์
ผู้สื่อข่าวถามว่าสำหรับการสู้ศึกในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ถือว่าเป็นศึกใหญ่เลยก็ว่าจะวางแผนอย่างไรได้ นายพิธาตอบว่าการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 นั้น ผมได้ถึง 7 ที่นั่ง ซึ่งก็ได้พูดกับผู้สมัครนายกอบจ.กับ ผู้สมัคร ส.อบจ ไปว่าการเลือกตั้งระดับประเทศกับท้องถิ่นไม่เหมือนกัน จะนำมาเป็นตัวชี้วัดไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็อย่าประมาท อย่าเสียขวัญด้วย แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จากพรรคก้าวไกลที่โดนยุบพรรคมาสู่พรรคประชาชน ก็มีฐานเสียงเหมือนกัน แต่ก็อย่าประมาทได้เด็ดขาด เพราะการทที่ทำสำเร็จปี 2566 ไม่ได้หมายความว่าปี 2567 คุณจะทำสำเร็จโดยอัตโนมัติ เพราะการเลือกตั้งแต่ละพื้นที่บริบทต่างกันคนมาใช้สิทธิก็ก็ต่างกันด้วย
ส่วนกรณีที่มีผู้สื่อข่าวอยากฝากถามอะไรนายกรัฐมนตรี แพทองธาร หรือไม่ นายพิธาบอกว่า 1 ม.ค.-11เมษายน 2566นั้น ที่ฝุ่นเชียงใหม่ 50 กว่าวัน ลำพูน 60 กว่าวัน วันฟ้าใส 20-30 วัน ตอนนี้จะมีมาตการโรดแมฟแก้ปัญหาบรรเทาทุกให้ประชาชนอย่างไร แล้วฤดูฝนที่น้ำท่วม ก็ยังไม่ได้รับการจัดการ ต่อไปฤดูฝุ่นจัดการอย่างไร จะจัดการกับเรื่องไฟป่าหมอกควันอย่างไร การเผาการเกษตรอย่างไร และการเผาข้ามชาติอย่างไร คิดว่าคนเชียงใหม่รออยู่คิดว่า คุณแพทองธาร และ สว.ก๊อง จะมีแผนอย่างไร ถ้าทั้งสองคนไม่พูด ก็รอทีมของพรรคประชาชนได้พูด และจัดการว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อจากนี้ ให้มีอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้น เพราะเรามีเวลาเตรียมตัวอยู่ ส่วนการประเมินให้คะแนนรัฐบาลนั้น ตนไม่ขอประเมินหรอก เพราะมองดูภาพรวมแล้วประชาชนยังลำบากอยู่ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาด้วยด่วน
Advertisement