นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ติดต่อกัน 2 วัน ว่า เหตุการณ์เมื่อเช้าวานนี้ เป็นการลอบวางระเบิดในรถจักรยานยนต์ ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ และจากหารือในคณะกรรมการ กบฉ.ครั้งที่ผ่านมา มีการปรับให้อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ไม่ต้องใช้กฎอัยการศึก และจากการหารือร่วมกันกับ สมช. มองว่าการปรับลดพื้นที่และการปรับเพิ่มพื้นที่ จะเป็นไปตามเกณฑ์ของกระบวนการเขา จึงมอบให้ สมช.ทบทวนถึงสิ่งที่ทำมาใน 1 เดือน ว่ามีอะไรดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้น
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ต้องตามดู ว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไร และตราบใดที่ยังไม่มีการพูดคุยอย่างจริงจัง มันก็จะเป็นไปแบบนี้อีก แต่คาดว่าสิ้นเดือนนี้น่าจะจบ ก่อนจะย้ำว่าหากใช้วิธีการแบบเดิม เรื่องแบบเดิมก็จะเกิดขึ้นอีก ขอให้ไปทบทวนดูว่ายุทธศาสตร์จะเอาอย่างไร ซึ่งรวมไปถึงการตั้งคณะกรรมการไปเจรจาด้วย ไม่ใช่ว่าเจรจาก็เจรจา คนก่อเหตุก็ก่อเหตุไป และตนก็ได้สั่งการที่ปรึกษาทั้งทหารและตำรวจไปทบทวนวิธีการ ให้ดูปัญหาอยู่ตรงไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร
เมื่อถามว่า วันนี้เกิดเหตุการณ์อีกครั้ง ที่นานราธิวาส มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย และนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ในวันที่ 16 มกราคมนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนก็จะลงไปด้วย แต่ต้องขอดูในรายละเอียดของเหตุการณ์นี้ก่อน
ส่วนจำเป็นจะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดยหน้าที่เขาก็ต้องทำอยู่แล้ว เรื่องการดำเนินการ เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องมั่นใจว่าสามารถทำได้
เมื่อถามย้ำเรื่องการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้จะเอากลับมาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การลงไปครั้งนี้ จะเป็นการไปรับฟัง ว่า ข้อเสนอต่างๆเป็นอย่างไร รวมไปถึงมีอีกหลายภารกิจ จะไปดูในพื้นที่สำคัญ ที่จะเป็นเงื่อนไข ทำให้ปัญหาในพื้นที่ต่างๆดีขึ้น พร้อมกล่าวย้ำว่า การจะกลับมาใช้คณะกรรมการพูดคุยสันติสุขหรือไม่ ขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ที่จะหารือ
Advertisement