นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ปชช.แห่จองสิทธิ์กว่า 12 ล้านคน
นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้านตัวอย่างพร้อมจองสิทธิ์ พบปชช.กว่า 12 ล้านคน เข้าเว็บไซต์จนเว็บล่ม-ต่อคิวตั้งแต่ตี 5
วันนี้ (17ม.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดชมห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่โถงกลางประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
คอนเทนต์แนะนำ
โดยกิจกรรมในวันนี้ โดยบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการศึกษาและพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนชาวไทย โดยนำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) มาดำเนินโครงการ ซึ่งจะมีโครงการหรือพื้นที่ดำเนินการที่มีศักยภาพที่สุด 25 พื้นที่ ทั่วประเทศ แต่ในการดำเนินโครงการระยะแรก(โครงการนำร่อง) จะมีพื้นที่โครงการ 4 พื้นที่(บริเวณสถานีรถไฟ) ดังนี้ พื้นที่โครงการบางซื่อ กม.11(วิภาวดี) ขนาดพื้นที่ 9.38 ไร่ , พื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ขนาดพื้นที่ 17.75 ไร่ และพื้นที่โครงการเชียงราก(ปทุมธานี) ขนาดพื้นที่ 18.05 ไร่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถือเป็นวันที่ดีที่ในที่สุด เราได้เห็นห้องตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม กับนโยบายที่ได้พูดมาสักพัก อยากจะถามทุกท่านว่าทราบหรือไม่ว่าคนไทยจำนวนมากไม่มีบ้านของตัวเอง โดยคนไทยกว่า 5.87 ล้านครอบครัว หรือคิดเป็น 27% ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งรัฐบาลนี้อยากช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เราพยายามมีนโยบายที่ดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงสิทธิของรัฐ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มั่นคงขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เชื่อว่าโครงการบ้านเพื่อคนไทยจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยซัพพอร์ตคนที่เริ่มทำงาน หรือคนที่พยายามเก็บเงินเพื่อที่จะมีบ้านเป็นของตนเอง แต่เมื่อเก็บเงินไปแล้วราคาบ้านที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องซื้อบ้านที่อยู่ไกลจากที่ทำงาน รถติดกว่าจะใช้เวลามาทำงาน ชั่วโมงครึ่งกลับอีกชั่วโมงครึ่ง ทำให้มนุษย์ทำงานทุกคนรู้สึกเหนื่อยล้า คนที่มีศักยภาพหมดแรง ทำให้ประเทศไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควร ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าถ้าประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ดี ใกล้ที่ทำงาน ประหยัดเวลา สามารถมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพื่อชาร์จพลังจะทำให้มีแรงมากขึ้นในการทำงาน เป็นพื้นฐานปัจจัยสี่ที่อยากให้ประชาชนทุกคนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อยากให้ประชาชนลดความทุกข์ลงในทุกรูปแบบ ให้ประชาชน มีความเป็นอยู่ที่ดีใกล้ที่ทำงาน ซึ่งมีเป้าหมาย ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนมีที่อยู่ที่ดีที่ปลอดภัย ต่อจากนี้จะมีการให้ข้อมูลที่สนใจ ผ่านช่องทางของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดจอง และการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนคนที่สนในสามารถดูบ้านตัวอย่างได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ไม่เว้นวันหยุด หลังจากนั้นจะมีการปรับช่วงเวลาให้เหมาะสมกับผู้ที่จะเข้ามาดูตัวอย่างโครงการ รายละเอียดดี แล้วหวังว่าโครงการจะประสบความสำเร็จในระยะนำร่อง
สำหรับรูปแบบที่นายกรัฐมนตรีมาเยี่ยมชมในวันนี้ จะมีตัวอย่างโครงการ ในพื้นที่ กม. 11 - ตั้งอยู่ซอยวิภาวดี ฯ 11 ติดถนนกำแพงเพชร ห่างสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 ก.ม. ห่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว 500 ม. ห่าง MRT พหลโยธิน 500 ม. ที่ในผ่อนถูก ไม่ต้องดาวน์ ถือครองในระยะเวลา 99 ปี
เป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในพื้นที่รอบสถานีรถไฟและเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ให้เช่าสิทธิ์การอยู่อาศัยระยะยาว ในราคาที่เหมาะสม
สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทย ได้นำร่องบนพื้นที่ทั้ง 4 แห่ง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกอบด้วย
1.พื้นที่บางซื่อ กม. 11 เขตจตุจักร ซอยวิภาวดี 11 ติดถนนกำแพงเพชร ห่างจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กม. ห่างจากเซ็นทรัลลาดพร้าว 500 เมตร ห่างจาก MRT พหลโยธิน 500 เมตร
2.พื้นที่ธนบุรี (ศิริราช) ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีส้ม 800 เมตร มีขนาดที่ดินประมาณ 23 ไร่ แต่เนื่องจากพื้นที่ยังมีบ้านพักพนักงานรถไฟ จึงต้องศึกษาเพิ่มเติม
3.พื้นที่เชียงราก จ.ปทุมธานี ใกล้ ถ.เลียบคลองเปรมประชากร ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก 4.4 กม. ห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 4.4 กม., ห่างจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 4.4 กม. ห่างจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ 9 กม.
4.พื้นที่เชียงใหม่ ติดสถานีรถไฟเชียงใหม่ ติด ถ.เจริญเมือง ถ.ทุ่งโฮเต็ล ห่างจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย 2.5 กม.,ห่างจากมหาวิทยาลัยพายัพ 2.6 กม., ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 7.5 กม.,ห่างจาก ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ 1.3 กม./5 นาที
สำหรับเงื่อนไขคุณสมบัติผู้ซื้อเบื้องต้น
1.ถือสัญชาติไทย
2.ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์บ้านมาก่อน (ซื้อเป็นบ้านหลังแรก)
3.ไม่มีประวัติติดค้างอยู่ในเครดิตบูโร
4. รายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน
Advertisement
