GDPไทยไตรมาส 4ดีขึ้นแต่การลงทุนเอกชนหดตัว
นายกฯ เผย ตัวเลข GDPไทยไตรมาส 4/67 มีทิศทางดีขึ้น แต่การลงทุนภาคเอกชนหดตัว เร่งกระทรวงการคลัง- พาณิชย์ ทำงานร่วมกันแก้ปัญหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงตัวเลข GDP ว่าจากการรายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 และแนวโน้มปี 2568 โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะเห็นว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ไตรมาสที่ 4/2567 มีทิศทางที่ดีขึ้นเกือบทุกมิติ แต่การลงทุนในภาคเอกชนหดตัว ซึ่งมีปัจจัยสำคัญ คือ ภาคเอกชน เช่น SME มีสัดส่วนมาก ขณะเดียวกัน ธนาคารพาณิชย์มีการปล่อยสินเชื่อน้อย จึงขอให้กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารพาณิชย์ ทำงานร่วมกัน และเร่งหามาตรการป้องกันปัญหาดังกล่าวอย่างเร็วที่สุด ย้ำว่าสภาครัฐพยายามทำในทุกๆเรื่อง เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติม ต้องการให้การเงินการคลังทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อจะตอบโจทย์ให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อขณะนี้ยังต่ำเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน
สำหรับปี 2568 จีดีพีเติบโตร้อยละ 2.8 ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการที่ร้อยละ 3-3.5 นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเหมือนที่ได้พูดไปเรื่องของสินเชื่อ รัฐบาลต้องคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อร่วมมือกัน
เพราะสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง จากการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีในหลายจังหวัด เห็นว่ามีศักยภาพไม่เพียงเฉพาะเมืองหลัก แต่ยังมีเมืองรองที่มีความสำคัญเช่นกันแต่สิ่งที่รัฐบาลต้องทำต่อ รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนต้องดูว่าจะลงทุนเพิ่มเติมในระบบได้อย่างไร ส่วนภาพรวมจีดีพีปี2567 ของไทยถือว่ารั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน จากมาตรการที่รัฐบาลจะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้ตัวเลขจีดีพีสามารถขยับขึ้นได้หรือไม่ ย้ำว่ากระทรวงการคลังตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 3 และจะพยายามผลักดันให้ถึงร้อยละ 3.5 มั่นใจว่า เดือนที่เหลือของปี 2568 จะผลักดันกันอย่างเต็มที่ รวมถึงการพูดคุยกับธนาคารพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ปัจจัยกระตุ้นจีดีพี นอกจากเรื่องของการท่องเที่ยวแล้วยังมีในเรื่องของการลงทุน ได้เดินทางไปหลายประเทศ เพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่ได้ออกมาแค่หนึ่งนโยบายเพื่อกระตุ้นจีดีพี ทุกกระทรวงต้องทำเช่นกัน รวมถึงเอกชนต้องช่วยกัน เพราะไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้หรือปีสองปีที่แล้ว แต่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จึงต้องช่วยกันทุกฝ่าย รวมทั้ง ในส่วนของท้องถิ่น ผู้ว่าราชการในทุกจังหวัดมีความพร้อมในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรียังกล่าวทิ้งท้ายว่า การลงพื้นที่เพื่อติดตามนโยบายต่างๆของภาคใต้ จะผลักดันเต็มที่ ขอให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลกำลังทำทุกอย่างเต็มที่ ร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อผลักดัน เศรษฐกิจ ไปพร้อมกัน
Advertisement
