2 สส.ปชน. ซัด ถนนพระราม 2 เกิดเหตุซ้ำซาก เหมือนโรคระบาด
"สส.เท่า-สส.แอน" 2 สส.ปชน. เตรียมตั้งกระทู้สดถาม "สุริยะ" สัปดาห์หน้า ชี้ ถนนพระราม 2 เกิดเหตุซ้ำซาก เหมือนโรคระบาด
จากกรณี สะพานทางด่วน โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ทรุดตัวพังถล่ม บริเวณซอยพระรามที่ 2 ซอย 17 ถึง ซอย 25 ถนนพระรามที่ 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. ทับคนงาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 15 มี.ค. 68 นาย เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. และ น.ส.แอนศิริ วลัยกนก สส.กทม พรรคประชาชน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับทางพิเศษสายพระราม 3 -ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ถล่มทับคนงาน จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
นายเท่าพิภพ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรังมานาน ตนเองได้พูดคุยในเบื้องต้น ทราบว่าผู้รับเหมาไม่มีประสบการณ์ และเกิดจากการเทปูนมากเกินไป แต่ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ต้องรอการตรวจสอบ และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในฐานะพรรคประชาชน เป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านจะต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยในสัปดาห์หน้า จะนำเรื่องนี้ตั้งเป็นกระทู้สด และหวังว่า รมว.คมนาคมจะตอบคำถามในเรื่องนี้ได้
นายเท่าพิภพ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก จนมีการพูดว่า ”พระราม 2 อีกแล้วเหรอ“ จนกลายเป็นเหมือนโรคระบาด และเหตุการณ์แบบนี้ส่วนตัวมองว่าอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุก็ได้ แต่อาจจะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งลักษณะสัญญาของภาครัฐจะเป็นสัญญาใหญ่ และค่อยจะไปทำสัญญาแบบ Sub - contract หาบริษัทผู้รับเหมารายย่อยมารับช่วงต่อ ซึ่งหลายโครงการมีการทำสัญญาหลายช่วงจนถูกตั้งข้อสังเกตว่า คุณภาพของงานกับงบประมาณที่เสียไปนั้นไม่มีคุณภาพ และพรรคประชาชนจะนำเรื่องนี้ไปใช้กระบวนการทางรัฐสภาตรวจสอบทั้งในเรื่องติดตามงบประมาณ และการจ้างสัญญากับบริษัทผู้รับเหมาต่อไป
นานเท่าพิภพ กล่าวอีกว่า หลายครั้งในการจัดซื้อจัดจ้าง และการทำสัญญาของภาครัฐในโครงการของการทางพิเศษ มีการทำสัญญากับผู้รับเหมาในลักษณะผูกขาด ซึ่งจะให้บริษัทขนาดใหญ่เพียงไม่กี่เจ้าในประเทศไทย ก่อนที่บริษัทรายใหญ่จะจ้างบริษัทรายย่อย จึงต้องมาดูว่าตรงนี้เป็นสาเหตุของการเกิดเหตุหรือไม่
ทั้งนี้ นายเท่าพิภพ ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งมองว่า การจ้างผู้รับเหมาต่อหลายๆ ทอด และมาเร่งงานบีบงบประมาณ จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น จึงมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะคนงานทุกคนไม่อยากจะมาเสี่ยง โดยหลังจากนี้จะต้องไปดูในเรื่องกฎหมายที่จะต้องวางรากฐานให้ดี ไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะแบบนี้อีกในอนาคต
นานเท่าพิภพ ได้แสดงความเป็นห่วงต่อประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าการเดินทางของประชาชนจำนวนมาก รัฐบาลต้องคอยสอดส่องดูแล ควบคุมโครงการก่อสร้างแต่ละโครงการให้มีคุณภาพ รวมถึงสภาพถนนที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดอุบัติเหตุได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการนำบทลงโทษสมุดพก (แบล็คลิสต์) ตอบผู้รับเหมาที่เกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้าง นายเท่าพิภพ ระบุว่า จะต้องไปดูในรายละเอียดก่อน ถ้าถึงจุดหนึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการบังคับใช้กฎหมาย เพราะบางบริษัทเมื่อโดนแบล็คลิสต์แล้วก็ไปจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ และแน่นอนว่าการแบล็คลิสต์เป็นการทำโทษ แต่หลักใหญ่ใจความจะต้องปฏิรูปการรับงานของภาครัฐ
ด้าน น.ส.แอนสิริ กล่าวเพิ่มเติมถึงการรับช่วงต่อของบริษัทผู้รับเหมาว่าจะต้องไปตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด ทั้งในเรื่องของการประมูลงาน และส่งมอบงาน เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นความเชื่อมั่นก็จะไม่เกิดขึ้น และจะมีอุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้นตามมาเรื่อยๆ
Advertisement
