นายสุธรรม จริตงาม สส.พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในประเด็นความซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน และสังคม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและครอบครัว โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติ จึงเป็นบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเหตุที่ตั้งข้อกล่าวหารุนแรงมาจากพฤติการณ์ของนายกรัฐมนตรี ที่ได้หากินในที่ดินธรณีสงฆ์ซึ่งเป็นสมบัติของวัดธรรมิการาม ด้วยการถือหุ้นในบริษัทอัลไพน์กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับจำกัด ซึ่งศาลตัดสินแล้ว ควรถึงเวลาที่จะคืนที่ดินให้วัดตามเจตนารมณ์ของผู้ยกที่ดินให้กับทางวัด
นายสุธรรม กล่าวว่า ในฐานะชาวพุทธไม่สบายใจที่มีผู้มาหากินกับทรัพย์สินของทางวัด และถือว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรีเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ เพราะหลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วต้องถือหมวก 2 ใบ คืนในฐานะ นายกรัฐมนตรี และลูกที่เพิ่งโอนหุ้นให้กับมารดาของตนเอง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทนี้มีการโอนหุ้นกันไปมาภายในครอบครัว
โดยไม่ทราบว่าพฤติกรรมของครอบครัวนี้ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ทั้งที่ร่ำรวยมีทรัพย์สินเป็นหมื่นล้านบาท เพราะเหตุใดจึงหวงแหนที่แปลงนี้ จึงถือเป็นเรื่องส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีที่ต้องชี้แจงด้วยตนเอง เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องศีลธรรมและความซื่อสัตย์ แต่ไม่อยากต่อว่ามากเพราะตอนที่นายกรัฐมนตรีถือหุ้นบริษัทอัลไพน์ยังเด็ก และไม่ทราบเรื่องราวภายในครอบครัวนี้ แต่ก็ย่อมปฏิเสธพฤติกรรมในอดีตไม่ได้ จึงถือว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรีขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมคนที่เป็นนายกฯ ของประเทศไทยไม่ควรมีพฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าเสื่อมเสียเกียรติ
“หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภาหรือลาออก ควรจะพูดคุยกับคนในครอบครัว คืนที่ดินแปลงนี้ให้กับวัดเพื่อลบล้างบาปผลกรรมที่ทำไว้กับทางวัดมายาวนาน”นายสุธรรม กล่าว
Advertisement