Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นายกฯอิ๊งค์ ลั่น แม้อายุน้อย แต่เสียภาษีมากกว่าแน่นอน

นายกฯอิ๊งค์ ลั่น แม้อายุน้อย แต่เสียภาษีมากกว่าแน่นอน

24 มี.ค. 68
16:46 น.
แชร์

นายกฯอิ๊งค์ เหน็บ วิโรจน์ เข้าใจผิดเปรียบตัวเองเป็นจอมยุทธ์ เชื่อแม้อายุน้อยแต่เสียภาษีมากกว่า ขณะปมที่ดินอัลไพน์เกิดตอนอายุ 11 ขวบ ถามต้องซักฟอกมั้ย 

เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 24 มี.ค. 68 ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลนั้น 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงต่อสภาฯ เป็นครั้งที่ 2 ตอบคำถามนาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่กล่าวหานายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยง “ภาษีการรับให้” โดยใช้ ตั๋วPN ซื้อหุ้นจากเครือญาตินั้นว่า 

ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีสมาชิกอภิปรายที่เข้าใจว่าตัวเองเป็นจอมยุทธ์นั้น กำลังสำคัญผิดในข้อเท็จจริง มีการใช้สำนวนโวหาร ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน และนำเรื่องเรื่องภาษีที่เป็นคนละหมวดกันมาอธิบายให้คนเกิดความสับสน 

ตนขอยืนยันทั้งการปฏิบัติ และเจตนาที่ได้ดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมา ถูกต้องตามกระบวนการ และกฎหมาย การที่จะกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีคนนี้หนีภาษี ไม่ได้เป็นความจริง ทุกอย่างเป็นเรื่องตรงกัน แม้ความจริงตนจะอายุน้อยกว่าผู้อภิปราย แต่มั่นใจว่าเสียภาษีให้รัฐมากกว่าแน่นอน 

ส่วนในเรื่องของบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ขอชี้แจงให้เข้าใจตรงกันว่า การแสดงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ได้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินครบถ้วนตามขั้นตอนทุกอย่าง ขณะนี้ก็มีการยื่นคำร้องตรวจสอบความถูกต้อง และเรื่องที่ถูกร้อง ตามกระบวนการของ ป.ป.ช.โดยตนมีความยินดีอย่างยิ่ง และเต็มใจที่จะแสดงข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง ที่ ป.ป.ช.ขอมา และพร้อมจะให้ความร่วมมือทุกประการจนกว่าจะได้ข้อสรุป 

ส่วนเรื่องธุรกรรม ก่อนการดำรงตำแหน่ง ทรัพย์สินกิจการของครอบครัว และของตน มีการถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย. 2549 และไม่เคยมีตอนไหนไม่เข้มข้น ทุกบัญชี และทุกธุรกรรมอยู่ในสายตา และโปร่งใสมานาน 

นอกจากนี้ยังขอยืนยันว่า ที่ดินทุกแปลงทุกตารางวา ที่ตน และครอบครัวมี ออกโฉนดโดยรัฐทั้งหมดไม่มีการซื้อที่ดินที่ไม่มีโฉนด 

ขณะที่การทำธุรการเรื่องหุ้น เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 ก่อนที่ตนจะเข้าสู่การเมืองหลายปี ซึ่งเป็นความตั้งใจในการปรับโครงสร้าง การถือหุ้นบริษัท โดยการซื้อขายผ่าน ตั๋วสัญญาซื้อเงิน หรือ PN ซึ่งเป็นหนังสือให้คำมั่นสัญญาว่า จะใช้เงินให้กับอีกบุคคลหนึ่งตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งหนังสือดังกล่าวได้ติดอากรสแตมป์ตามกฎหมายเรียบร้อย ซึ่งการซื้อขายแบบนี้บางรายการไม่มีการเสียภาษี เพราะยังไม่มีการชำระเงิน จึงยังไม่ทราบจำนวนและยังเสียภาษีไม่ได้ 

โดยการซื้อขายแบบนี้ จึงเป็นภาระหนี้สินระหว่างตนที่เป็นผู้ซื้อ และครอบครัวที่เป็นผู้ขาย ซึ่งมีความชัดเจน ไม่มีนิติกรรมอำพรางใดๆ เพราะหากจะเกิดการซื้อขายจริง ยอดหนี้ก็ต้องแสดงในบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ได้ยื่นกับ ป.ป.ช.ไปทั้งหมดแล้ว สามารถตอบได้ทุกอย่าง และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ทำกันมาเป็นปกติ ขอให้ถามสมาชิกในพรรคฝ่ายค้านเองก็ได้ว่า มีใครทำธุรกิจอะไรประมาณนี้หรือไม่ และมีการทำสัญญาใช้หนี้แบบนี้บ้างหรือไม่ 

ทั้งนี้กรณีที่สมาชิกอ้างว่า เรื่องนี้จะเป็นแหล่งทุจริตข้าราชการผู้ใหญ่จะออกตัวสัญญาใช้เงิน ขบวนการใช้ยาเสพติดจะออกตั๋วให้กัน มองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จินตนาการมากเกินไปเยอะเหมือนกัน เพราะการออกตั๋วจะต้องทำธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ดำเนินการได้โดยเปิดเผย ฝ่ายผู้ซื้อและฝ่ายผู้ขายจะต้องรับภาระหนี้สินระหว่างกัน ไม่มีการกระทำนอกกฎหมายใดๆ ซึ่งการเลือกใช้วิธีออกตั๋ว PN แทนการรับให้ เพราะเป็นการดำเนินการธุรกิจอย่างเปิดเผย ไม่สามารถแอบทำได้ 

ส่วนเรื่องของการปรับโครงสร้างหุ้น จำเป็นต้องใช้การซื้อขาย แต่ ณ เวลานั้นตนเองยังไม่มีความพร้อมที่จะชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด จึงทำสัญญาตั๋วสัญญาใช้หนี้แทน และมีการวางแผนที่จะชำระเงินแล้ว โดยรอบแรกจะชำระภายในปีหน้านี้ ซึ่งได้ตกลงกับครอบครัวแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร และหลักฐานการซื้อขายก็จะถูกปรากฏในบัญชีทรัพย์สินแน่นอน พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างดำเนินการอย่างโปร่งใส เพราะไม่สามารถหลบเลี่ยง การจ่ายภาษีได้อยู่แล้ว 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังชี้แจงถึงกรณีที่ที่ดิน อัลไพน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ตอนที่บริษัทของครอบครัวซื้อที่ดินแปลงนี้ ตนเองอายุประมาณ 11 ขวบ และเป็นกรรมการบริษัท ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ท่านจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่ช่วงเวลานั้นหรือไม่ พร้อมย้ำว่า การซื้อที่ดินของครอบครัว ซื้อแบบมีโฉนดตลอด เพราะทราบอยู่แล้วว่า ต้องทำในสิ่งที่ถูกกฎหมาย และหลังจากมีคดีความ ขั้นตอนที่เกิดขึ้นทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ จนตนเองมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยไปแทรกแซง หรือไปสั่งให้หน่วยงานใดให้ทำเรื่องนี้ให้เป็นไปแบบตามที่ต้องการ ซึ่งคิดว่า ท่านอาจจะยังไม่เข้าใจกระบวนการทำงานที่แท้จริง ซึ่งตนขอรับเรื่องนี้ไว้เพื่ออธิบายให้คนเข้าใจมากขึ้นในอนาคต โดยหลังจากนี้ขออนุญาตมอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยชี้แจงเพิ่มเติม 

ส่วนที่ดินของเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่มีการพิพาทระหว่างกรมที่ดิน กับการรถไฟแห่งประเทศไทย และประชาชน ตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรี จะกำชับเรื่องนี้ และให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน ให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกฎหมาย พร้อมขอให้มั่นใจว่า ตนเองทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทุกเรื่องต้องผ่านขั้นตอนตามระบบระเบียบ เพื่อป้องกันเกิดความวุ่นวายต่างๆ ตามมา ซึ่งตนเองไม่อยากให้ใช้เรื่องเซนซิทีฟเหล่านี้ พูดจาให้เกิดความสับสน และเกิดความแตกแยกในสังคม เพราะเราเป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งก็พร้อมที่จะรับฟัง หากเห็นว่าใครมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ก็ควรจะชื่นชมบ้าง จะได้เป็นกำลังใจในการทำงานด้วย เพราะอย่างน้อยก็เป็นคนไทยเหมือนกัน โดยเข้าใจว่า ทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศไทยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการพูดเพื่อให้เกิดความเกลียดชัง ความแตกแยก ตนคิดว่า “เราผู้มีวุฒิภาวะ ไม่ควรทำ” 

จากนั้นนายวิโรจน์ ได้ขอใช้สิทธิ์พาดพิง โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะเสียภาษีมากกว่าใครนั่นเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ตนมั่นใจว่าคนไทย 60 ล้านคน หรือมากกว่านั้น เสียภาษีน้อยกว่านายกรัฐมนตรีทั้งนั้น ซึ่งอยากให้ดูมาตรา50 (9) ของรัฐธรรมนูญ บุคคลมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายบัญญัติประชาชนจะเสียมากหรือเสียน้อยทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน 

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้มีการลุกขึ้นประท้วง ตามข้อ 9 สำหรับญัตติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกระทู้ ซึ่งการพาดพิงสามารถใช้สิทธิ์ได้แต่สิ่งที่ท่านพูดออกมาทั้งหมดไม่มีสิ่งเกี่ยวเนื่องกับการพาดพิง ดังนั้นตามข้อ 9 ขอให้ประธานโปรดควบคุมการประชุม 

ก่อนที่นายภราดร ประธานในที่ประชุมได้วินิจฉัย  โดยระบุว่า ตนกำลังฟังอยู่ว่านายวิโรจน์ จะเข้าเรื่องที่นายกรัฐมนตรีพาดพิงอย่างไร ดังนั้นขอให้พูดอย่างกระชับ 

จากนั้นนายวิโรจน์ได้มีการอภิปรายต่อว่า  สรุปว่าเสียภาษีมากน้อยไม่สำคัญตราบใดที่ประชาชนทุกคนเสียภาษีตามที่กฎหมายบัญญัติ ถือว่าทำได้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เสียภาษีมาก แต่หาเทคนิคในการหลบเลี่ยงหนีภาษีต่างหากที่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

Advertisement

แชร์
นายกฯอิ๊งค์ ลั่น แม้อายุน้อย แต่เสียภาษีมากกว่าแน่นอน