ที่รัฐสภา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท หลังจากที่ถูกฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิง ว่า กระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยทางปลัดกระทรวงกำลังจะเรียกประชุม คณะกรรมการค่าจ้างในครั้งต่อไป ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เพื่อหาแนวทางการพิจารณา ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทในครั้งต่อไป เพื่อให้ทันในวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับ วันแรงงานแห่งชาติ แต่หากประกาศทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศก็จะส่งผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs ซึ่งมีกว่า 5 แสนราย ลูกจ้างประมาณ 5,800,000 คน
ฉะนั้นหากมีการประกาศขึ้นค่าแรงอย่างพร้อมเพียงกัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบจึงจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ และหารือกับผู้ประกอบการ SMEs ทุกจังหวัดก่อน พร้อมยืนยันว่านโยบายนี้ กระทรวงแรงงาน ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่การจะดำเนินการอะไรก็ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ ไม่เช่นนั้นหากเกิดความเสียหาย ก็จะเป็นเรื่องที่กระทรวงแรงงานไม่สามารถรับผิดชอบได้ พร้อมยกตัวอย่างว่าหากมีการ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างเท่าเทียม ก็อาจจะมีบริษัท SMEs หายไปกว่า 30% จาก 5.8 ล้านบริษัท จะหายไปประมาณ 1.9 ล้านบริษัท เมื่อเป็นเช่นนั้นกระทรวงแรงงานไม่สามารถนำแรงงานเข้าไปบรรจุ
นายพิพัฒน์ ยังยืนยันว่า การดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี กระทรวงแรงงานก็พยายามผลักดันแรงงานให้ GDP โตตามเป้า 3%
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้การขึ้นค่าแรงสัมพันธ์กับการเติบโตของ GDP 3% นายพิพัฒน์กล่าวว่า เราก็ตั้งเป้าจะทำให้ถึง GDP 3% แต่ถ้าวิเคราะห์แล้วไม่ถึงเราก็จะเลือกในบางสาขา ซึ่งตนได้ให้นโยบายปลัดกระทรวงไปแล้วว่า ในวันแรงงานจะต้องมีการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในบางสาขา โดยที่ผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นการหาข้อมูลต่างๆเราจะต้องพิจารณาอย่างละเอียด
Advertisement