วันที่ 26 มี.ค. 68 ที่รัฐสภา นาย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า ตนไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะมั่นใจในเพื่อนร่วมพรรคทุกคนว่าจะลงมติในทิศทางเดียวกัน แต่ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคไปกำกับเสียงในพรรคตนเอง
เมื่อถามว่า พอใจภาพรวมการอภิปราย 2 วันที่ผ่านมาหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทั้งพอใจและไม่พอใจ พอใจในการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ยังไม่พอใจคำชี้แจงของฝั่งรัฐบาล โดยเฉพาะช่วงท้ายก่อนปิดอภิปราย ยังมีอีกหลายเรื่องที่นายกรัฐมนตรียังไม่ใช้สิทธิ์แก้ข้อกล่าวหาในสภาฯ อย่างเต็มที่
ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ออกมาระบุว่ามีงูเห่าในฝ่ายค้าน 10 คน นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไปก้าวก่ายการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้ เพราะการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่างจากรัฐบาล การควบคุมเสียงโหวตเป็นหน้าที่ของแต่ละพรรค
เมื่อถามย้ำว่า การลงมติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยเรื่องระยะเวลาและกรอบการอภิปราย ส่วนการโหวตนั้น อย่างไรก็ต้องโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีกลไกในการควบคุมเสียง ดังนั้น ตนไม่สามารถชี้แจงแทนพรรคอื่นได้
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเอาคืนเกมฝ่ายค้าน เพราะนายกรัฐมนตรีก็เรียกประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องรอดูว่าจะเอาคืนในรูปแบบไหน แต่เราทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามถึงปฏิบัติการโรยเกลือ ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องแรกคือการบริหารเพื่อหนีภาษี ตนมองว่าคนที่เป็นนักการเมือง ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่สมควรใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลบเลี่ยงภาษี ส่วนเรื่องโรงแรมเทมส์วัลลีย์ เขาใหญ่ ยังมีการโต้เถียงกันเรื่องที่ดินและใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงแรม ซึ่งตนจะติดตามต่อไป
เมื่อถามว่าการอภิปราย มีการพาดพิงถึงนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากนี้ นัยยะทางการเมืองจะเป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การอภิปรายชั้น 14 แสดงให้เห็นชัดว่านายกรัฐมนตรีเป็นพยานรู้เห็นและรับทราบถึงสถานะของนายทักษิณตั้งแต่แรก ซึ่งเราต้องการให้นายกรัฐมนตรีตอบให้ชัดว่านายทักษิณเป็นโรคอะไรกันแน่ จึงได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่านักโทษคนอื่น
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ หากนายทักษิณตอบโต้กลับ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่กังวลอะไร รอดูการตอบโต้ว่าจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าดีลแลกปีศาจ คำว่าปีศาจหมายถึงใคร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ชนชั้นนำในสังคมที่เอารัดเอาเปรียบคนในสังคม และใช้อำนาจอิงแอบกับกลุ่มทุนและพวกพ้องของตนเอง โดยไม่ได้สนใจประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเปรียบเทียบการอภิปรายของพรรคประชาชนกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในครั้งนี้เหมือนเอาข่าวมาเล่ามากกว่าเอาข้อมูลลับมาเปิดเผย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนมองว่ามีเนื้อหาหลายอย่างที่เป็นเรื่องใหม่ เช่น เรื่องปฏิบัติการ IO ของนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. ซึ่งโดนทักท้วงจนไม่สามารถนำเสนอได้รอบด้าน เป็นข้อมูลใหม่ที่ระบุว่ากองทัพมองนักการเมืองทุกกลุ่มเป็นภัยต่อความมั่นคง ไม่ใช่แค่พรรคประชาชน ซึ่งโดนกล่าวหามาโดยตลอด จึงเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกองทัพ แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดนี้
Advertisement