วันที่ 9 เม.ย. 68 ที่รัฐสภา นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังนาย ไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาฯว่าจะไม่มีวันยกมือโหวตร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ว่า
ตนติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัด แต่ได้ฟังการอภิปรายอยู่ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขอยืนยันว่าที่นายไชยชนกได้พูดไปนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ในฐานะ สส.คนหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร เขาสามารถให้ความคิดเห็นส่วนตัวได้ แต่ในสถานะของสมาชิกพรรค และเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจนั้น เขาต้องทำตามมติของพรรค ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และเมื่อวันที่ 8 เม.ย. มีการแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ซึ่งมติของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยพร้อมและยินดีให้การสนับสนุน
เมื่อถามว่า ถือเป็นความในใจของนายไชยชนกใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถือเป็นความในใจ แต่คงต้องมีการจัดระเบียบอีกเล็กน้อย เพราะก่อนที่จะมีการประชุมสภาฯ ต้องมีการประชุมพรรคก่อนทุกครั้ง และในครั้งนี้นายไชยชนก ยังไม่ได้แจ้งและได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมพรรคว่าจะให้ลุกขึ้นชี้แจงในเรื่องเหล่านี้ในฐานะส่วนตัว แต่ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ต้องแจ้งทางพรรคก่อน ดังนั้นตนจึงขออภัยในความไม่สะดวกด้วย
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะเรื่องกาสิโนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนพยายามติดต่อนายกรัฐมนตรีอยู่ เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ซึ่งเรื่องนี้ต้องเรียนชี้แจงนายกฯว่า สิ่งที่พูดนั้นไม่ใช่ในนามพรรคภูมิใจไทย แต่สิ่งที่นายไชยชนกพูดนั้นก็มีความชัดเจน ซึ่งการพูดในวันนี้พูดในนามของนายไชยชนก ลูกของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และที่ระบุว่าเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ได้พูดในนามของพรรค ซึ่งได้พูดด้วยว่า ไม่ได้ไม่สนับสนุนกาสิโน เพียงแต่บอกว่าไม่สนับสนุนกฎหมายกาสิโนในช่วงนี้ เพราะเชื่อว่ายังมีเหตุการณ์อื่นที่สำคัญกว่า และที่บอกว่ายังไม่สามารถสนับสนุนร่างดังกล่าวได้นั้น หรือแม้แต่กฎหมายของพรรคภูมิใจไทย เรื่องบ้านเกิดเมืองนอน และกฎหมายอื่นๆ ของพรรคไหนก็จะไม่พิจารณา ถือว่าคือความเป็น สส.ของเขา แต่ขอยืนยันว่า ไม่ใช่มติของพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะสร้างความไม่สบายใจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ ที่ผมมาพูดตรงนี้ เพื่อให้ทุกคนสบายใจ”
เมื่อถามอีกว่า เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับนายเนวินแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุย และยังไม่มีการคุยกับใครด้วย หลังจากหมดเวลาราชการ ตนจะขอติดต่อชี้แจงกับนายกฯ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้ทราบเรื่อง
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า “ผิดคิวนิดหน่อย แต่เขามีสิทธิ์ ในฐานะที่เป็น สส. ซึ่งความเป็นสส. มีเอกสิทธิ์ล้วนๆ ไม่สามารถห้ามได้ แต่ความเป็นพรรคการเมืองในอนาคต จะต้องแจ้งให้พรรคทราบก่อน”
Advertisement