นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงการเดินหน้าแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการทหารบกปรับแผนทำงานเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งทั้งทหารและ ตำรวจได้ประชุมร่วมกับหน่วยต่างๆ ในพื้นที่แล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ โดยให้รายงานความคืบหน้า และ รายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ ภายใน 7 วัน ซึ่งไม่ได้กำหนดว่า ภายใน7 วันนี้ต้องจบ แต่เพื่อให้รายงานความคืบหน้าเพื่อติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด
รวมทั้งเพื่อให้หน่วยในพื้นที่ตื่นตัวในการปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ยอมรับว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้ มีข้อมูลจำนวนมากและไม่ตรงกัน ซึ่งจะต้องมีการคุยกันอีกครั้ง และยอมรับว่า ร้อนใจ
ส่วนมติ ครม. ที่สั่งการให้หาแนวทางยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้นั้น นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ครม. ยังไม่มีมติให้ยกเลิก แต่เป็นเพียงข้อเสนอของภาคเอกชนที่เห็นว่า สถานการณ์เป็นปกติแล้ว และเพื่อให้การทำกิจการค้าขายดีขึ้น จึงมีข้อเสนอนี้ ให้ ครม. พิจารณา และได้หารือไปแล้ว แต่ล่าสุดกลับมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอีก จึงต้องทบทวนข้อเสนอใหม่อีกครั้ง ทำให้การหารือกันที่นัดหมายไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ แก้ปัญหาในพื้นที่ก่อน
นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยปัญหานี้กับแม่ทัพภาค 4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 และ ศ.อบต. เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา พร้อมยืนยันว่า การทำงานในพื้นที่ของทหาร-ตำรวจ ไม่มีช่องว่าง และไม่เรื่องรุ่นระหว่างกัน เพราะถือเป็นภารกิจที่ต้องทำโดยไม่มีเรื่องการข้ามรุ่น และ ตั้งที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่เคยพบปัญหานี้
สำหรับความคืบหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข นายภูมิธรรม ระบุว่า หากชัดเจนว่าสามารถควบคุมเหตุการณ์การความรุนแรงได้ก็จะมีการพูดคุย เบื้องต้นกำลังจะหารือกับผู้อำนวยความสะดวก ที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียตั้งขึ้น ตามที่ นายกรัฐมนตรีไทย และ มาเลเซีย ได้หารือกันไว้ก่อนหน้านี้
โดยทั้งสองประเทศ จะเดินแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันอย่างเต็มที่ หากยังมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะพิจารณาอย่างเด็ดขาดว่า ทางการมาเลเซียจะให้ความช่วยเหลือไทยได้อย่างไรบ้าง
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ไทยต้องการพูดคุยกับผู้นำตัวจริงของกลุ่ม BRN เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ แต่พบว่า กลุ่มนี้ไม่มีอำนาจในการหยุดยั้งสถานการณ์ โดยเฉพาะการกระทำที่รุนแรงได้ เมื่อทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะคุยอย่างไร ซึ่งขณะนี้เร่งประสานกับหลายฝ่าย ต้องพิจารณาว่ามีส่วนใดบ้างที่จะทำให้การพูดคุยบรรลุผล
Advertisement