น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 นครพนม-มุกดาหาร-สกลนคร โดยก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้นนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ คณะรัฐมนตรีที่กระจายกันลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของประชาชน
ก่อนที่ นายกฯ จะกล่าวถึงการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ซึ่งเกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - กัมพูชา ว่ามีการพูดคุยกัน ถึงเรื่องของความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ระหว่างชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ โดยยืนยันที่จะร่วมมือกันใน 4 ด้านหลัก คือ ร่วมกันใช้หลักฐานหรือข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการปราบปรามอาชญากรรมและร่วมมือกันบล็อคสัญญาณโทรศัพท์จากอินเทอร์เน็ตที่มาจากเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ และยกระดับมาตรการควบคุมชายแดนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะป้องกันลักลอบสิ่งของผิดกฎหมายข้ามแดนเช่นยาเสพติด
นอกจากนี้ยังร่วมมือการตรวจสอบคนไทยที่ทำงานในกัมพูชาซึ่งจะต้องมีใบอนุญาตการทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่งกำชับให้ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประสานความร่วมมือกับบริษัทเอกชนที่ให้บริการเครือข่ายร่วมมือกันปราบปรามปัญหานี้อย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนคนทั้ง 2 ประเทศมีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตและยกระดับเรื่องของความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น รวมไปถึงมีการเน้นย้ำเพิ่มเติมเนื้อเรื่องยาเสพติดเนื่องจากเรื่องนี้เป็นปัญหาไม่ใช่แก่กับกัมพูชาก็มีอีกหลายประเทศหัวข้อนี้จึงถือเป็นหัวข้อที่สำคัญและการที่จะไปติดต่อกับหลายประเทศก็จะนำเรื่องนี้ไปพูดคุย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำที่จะใช้กรอบความร่วมมือในภูมิภาค โดยเฉพาะอาเซียนในการเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเป็นอำนาจในการต่อรองทางการค้าของประเทศมหาอำนาจท่ามกลางกระแสการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอน การปรับใช้นโยบายภาษีของอเมริกา ส่งผลกระทบ ต่อการค้าของหลายประเทศ และผู้นำในหลายประเทศในอาเซียน เช่น มาเลเซีย และกัมพูชา ได้มีการหารือกันในเรื่องนี้และมีความเห็นตรงกันว่าประเทศสมาชิกในอาเซียน ควรร่วมมือกันในการเจรจาต่อรองโดยใช้จุดแข็งของแต่ละประเทศ ผ่านจุดแข็งในเชื่อมโยงขนส่งศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ ตนจึงอยากให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ทำงานได้นโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกาได้รับฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายรวบรวมมาตรการที่จะเป็นจุดแข็งของอาเซียนเพื่อที่จะใช้ในการเจรจาต่อรองต่อไป
นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชา จะประชุม ครม. ร่วม 2 ชาติ ในจังหวัดสระแก้ว เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาระหว่างชายแดนของทั้ง 2 ประเทศเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ PM 2.5 ยาเสพติด และเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทั้ง 2 ประเทศ
ขณะที่การบริหารจัดการน้ำของจังหวัดสกลนครและนครพนม จากการลงพื้นที่เมื่อวานที่ผ่านมา พบว่ายังมีปัญหาอยู่มากซึ่งจะต้อง มีการบูรณาการ ให้เป็นแผน เป็นระบบเป็นแผนที่วางไว้ทำให้การบริหารจัดการน้ำทั้งอุปโภคและบริโภค ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้พอสมควรและมีอีกหลายโครงการที่เกิดขึ้นมีการอนุมัติแล้วตั้งแต่ปี 2563 แต่ก็ยังดำเนินการได้น้อยจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูในขั้นตอนกระบวนการ หากมีรายละเอียดสามารถติดต่อ นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งทำเนื่องจากงบประมาณได้อนุมัติไปตั้งแต่ปี 63 มีการขยับงานได้น้อยมากๆ 5% หลายปีมันน้อยมากจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูและเร่งทำเรื่องนี้หากติดขัดเรื่องเอกสาร
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมมือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามโครงการต่างๆที่อนุมัติไปแล้วอื่นๆสามารถให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้เพื่อให้ประชาชนของจังหวัดนี้รวมถึงจังหวัดอื่นๆในภาคอีสานไม่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอีกต่อไป อย่างงบประมาณอนุมัติตั้งแต่ปี 63 หากเราเร่งได้เร็วถึงครึ่งหนึ่งก็จะลดปัญหาน้ำแรงไม่อยากชัดเจนเพราะฉะนั้นขอให้ทุกประชาชนที่เกี่ยวข้องดูในเรื่องน้ำท่วมนำแล้วว่าเป็นที่อะไรงบประมาณที่ผ่านไปแล้วช่วยเอามาคลี่คลายทำให้โฟร์ได้รวดเร็วแค่ไหน
Advertisement