วันที่ 15 ต.ค.64 เกิดเหตุระเบิดกลางมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในเมือง กันดาฮาร์ ทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน บาดเจ็บอีกมากกว่า 60 ราย โดยเป็นเหตุระเบิดมัสยิดสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดมัสยิดในเมืองกันดาฮาร์ดังกล่าว ขณะที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้อ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายกลางมัสยิมในเมืองคุนดุซ พื้นที่ตอนเหนือของประเทศก่อนหน้านี้
เหตุโจมตีที่เกิดขึ้น สร้างความหวาดกลัวในหมู่ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยของประเทศ และสั่นคลอนคำสัญญาของกลุ่มตาลีบัน ที่อ้างว่าจะคืนความมั่นคงนับตั้งแต่ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ โฆษกกลุ่มตาลีบัน บอกว่า กองกำลังความมั่นคงได้รับคำสั่งให้ล่าตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษภายใต้กฎหมายอาญาอิสลาม
รายงานข่าวระบุว่า แม้กลุ่มตาลีบันจะเป็นชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ที่เคร่งครัด แต่ก็ถือว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่เป็นนิกายสุหนี่เหมือนกันเป็นศัตรู และประกาศว่าจะปกป้องประชาชนทุกชาติพันธุ์และทุกนิกาย นับตั้งแต่ยึดอำนาจในเดือนสิงหาคม
เหตุระเบิดครั้งล่าสุดนี้ ชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนด้านความมั่นคงในอัฟกานิสถาน ในขณะที่กลุ่มตาลีบันกำลังเผชิญกับวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และมนุษยธรรมที่ทำให้ประชาชนหลายล้านคนกำลังประสบภาวะหิวโหย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไอซิสเค อ้างอยู่เบื้องหลัง ระเบิดมัสยิดอัฟกานิสถาน ดับอย่างน้อย 50 คน
- ตาลีบัน ประกาศชัยชนะใน อัฟกานิสถาน อ้างยึด ปัญจชีร์ จังหวัดสุดท้ายได้สำเร็จ
- สหรัฐฯ ถอนทหารคนสุดท้ายออกจาก อัฟกานิสถาน สิ้นสุดภารกิจ 20 ปี
Advertisement