วันที่ 11 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ รองสว.(สอบสวน) สภ.นาข่าอ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหนุ่มคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้ญาติเป็นตัวประกันที่บ้านเลขที่ 41หมู่ 9 บ้านบ่อโคลน ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.ดำรง หีบแก้ว สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ร.ต.อ.ศุภกร เอื้ออังกูรพงษ์ รองสวป.สภ.นาข่า นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อพบตำรวจผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลัง นายเมธิน ศรีเหล่าน้อย อายุ 28 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้สีแดง หมายเลขทะเบียน คฉข-123 อุดรธานี หลบหนีไปตำรวจได้แบ่งกำลังออกติดตามไปและกำลังบางส่วนได้ตรวจค้นบ้าน โดยมี นายใจเพ็ชร ณะดอน อายุ 57 ปี ญาตินายเมธิน นำตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวอัดลม 3 กระบอก มีดดาบสปาต้า 1 เล่มส่วนนายพันธุ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งถูกจับจี้เป็นตัวประกันได้รับบาดเจ็บได้วิ่งหลบหนีไปอยู่บ้านญาติที่หมู่บ้านอื่นแล้ว
นายใจเพ็ชรเล่าว่า นายเมธินมีอาการคลุ้มคลั่ง ร้องเอะอะโวยวายคล้ายคนเสพยาบ้าแล้วหลอน จากนั้นก็ใช้มีดจี้คอ นายพันธุ์ ไม่ทราบนามสกุลซึ่งเป็นญาติเป็นตัวประกันพวกตนจึงรีบโทรศัทพ์แจ้งตำรวจเมื่อนายเมธินเห็นตำรวจขับรถมาก็ทิ้งตัวประกันแล้วรีบขับรถจักรยานยนต์หนีทันที ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนนายเมธินเคยถูกจับข้อหาจำหน่ายยาบ้า พ้นโทษออกมาได้บวชแล้วสึกมาอยู่บ้าน ส่วนสาเหตุการคลุ้มคลั่งน่าจะเสพยาบ้าแน่นอน
ต่อมาเวลา 17.30 น. ตำรวจได้ไล่ติดตามนายเมธินไปประมาณ 2 กม. ซึ่งได้เมธินได้ทิ้งรถจักรยานยนต์และกระเป๋าเป้สีเทา ไว้กลางทุ่งนาแล้ววิ่งหลบหนีวนกลับเข้าไปในหมู่บ้าน ตำรวจได้ตรวจค้นกระเป๋าพบยาบ้า ประมาณ 7,000 เม็ด กัญชาอัดแท่ง 4 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1 กก. ยาไอซ์ 2 ห่อเล็ก ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าตำรวจติดตามจับกุมนายเมธินได้ ขณะกำลังหลบซ่อนในห้องนอนภายในบ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 บ้านขมิ้น ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้าน นายเต็มศักดิ์ บุตรสา อายุ 77 ปี ซึ่ง พิการหูหนวก
นางไทยรัตน์ กองเงิน อายุ 52 ปี ชาวบ้านขมิ้นซึ่งอยู่บ้านใกล้กันได้นำมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 1 ฟุต ที่ใช้ก่อเหตุและรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ของนายเมธินนำมามอบให้ตำรวจพร้อมกับเล่าว่า ขณะนอนเล่นอยู่หน้าบ้านได้มีผู้ชายวิ่งมาสวัสดีพร้อมกับขอฝากมีดและรองเท้าเพราะกำลังหนีตำรวจมาจากนั้นก็วิ่งหลบหนีไปเลย ตนตกใจมากกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกายและมารู้ว่าเป็นคนหลอนยาคลุ้มคลั่งตนยิ่งกลัวมากพอรู้ว่าตำรวจจับตัวได้จึงนำมีดและรองเท้าคนร้ายมามอบให้ตำรวจ
จากการสอบสวนนายเมธินให้การรับสารภาพ ตนไม่ได้ตั้งใจจี้ ตนต้องการให้ผู้บาดเจ็บพูดความจริงว่าทำไมไปขู่เอาเงินและทำร้ายแม่ตน ส่วนยาเสพติดทั้งหมด ตนเอามาจากเพื่อน จากนั้นนายเมธินก็ไม่ยอมพูดหรือให้ข้อมูลอะไรอีกเลย
ตำรวจตรวจปัสสาวะจึงแจ้งข้อหา "มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้ายาไอซ์) ยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย"
จึงควบคุมตัวไปขยายผลยาเสพติดส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกจับมีดจี้เป็นตัวประกันให้มาแจ้งความดำเนินคดีหลังจากหายตกใจในภายหลังเพื่อตำรวจจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement