รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการฝึกอาชีพดีพร้อม ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ฝึกทักษะอาชีพให้กับประชาชนกว่า 600 คน พร้อมมอบนโยบายยกระดับ “สรรพยาโมเดล” ต้นแบบชุมชนดีพร้อม เล็งพัฒนาชุมชนยั่งยืน คาดสร้างรายได้ชุมชนเพิ่มไม่น้อยกว่า 3 เท่า
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างรากฐานความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม หรืออาชีพดีพร้อม ซึ่งเป็นโครงการที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ขับเคลื่อนไปยังประชาชนทั่วประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการจากคณะรัฐมนตรี ผ่านการพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินงบประมาณ 1,249 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมาย สร้างอาชีพเสริมที่มั่นคงให้กับประชาชนจำนวน 700,000 คน ในพื้นที่ 400 ชุมชนทั่วประเทศ และคาดการณ์ว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากกว่า 12,000 ล้านบาท
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพดีพร้อม ในพื้นที่ จังหวัดชัยนาท แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ ประกอบด้วย 1.เทศบาลโพนางดำตก อำเภอสรรพยา 2.องค์การบริหารส่วนตำบลท่าฉนวน อำเภอมโนรมย์ และ 3.เทศบาลตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ โดยได้รับความสนใจจากประชาชน 600 คนเข้าร่วมการฝึกทักษะการพิมพ์ลายลงบนกระเป๋าผ้า โดยประชาชนสามารถปรับลวดลายได้ตามความคิดสร้างสรรค์
ทั้งนี้ ชาวอำเภอสรรพยา ถือได้ว่ามีทักษะความเชี่ยวชาญจากการทำผ้าสรรยาบาติก ซึ่งถือเป็นสินค้าขึ้นชื่อของชุมชน การฝึกทักษะอาชีพในครั้งนี้จึงเป็นการเพิ่มพูนทักษะพิเศษด้านการพิมพ์ผ้า เพื่อให้ชาวชุมชนนำไปต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่กำลังมองหาช่องทางในการเพิ่มรายได้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
โดยเพื่อให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้ประสานความร่วมมือกับศูนย์ดีพร้อมเซ็นเตอร์ 3 สนับสนุนองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้า บรรจุภัณฑ์ รวมทั้งองค์ความรู้ด้านอุตสาหกรรมที่จำเป็น เพื่อยกระดับสู่ “สรรพยาโมเดล” ต้นแบบชุมชนดีพร้อม ที่สามารถต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ชุมชน และส่งเสริมการเข้าถึงตลาดในทุกรูปแบบ สะท้อนภาพการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวชุมชนเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า
Advertisement