กุศลใหญ่ครั้งสุดท้าย! ครอบครัวบริจาคอวัยวะลูกชายช่วยต่อ 4 ชีวิต
กุศลใหญ่ครั้งสุดท้าย! หนุ่มเกิดอุบัติเหตุจนสมองตายระหว่างช่วยงานบุญ ครอบครัวบริจาคอวัยวะลูกชาย ช่วยต่อชีวิตได้อีก 4 ชีวิต
คอนเทนต์แนะนำ
วันนี้ 2 ธันวาคม 2565 เพจ "ศูนย์ประสานงานรับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลสุรินทร์" โพสต์ขอบคุณผู้บริจาคอวัยวะและดวงตา โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 นพ.ชุมนุม วิทยานันท์ ผอ.โรงพยาบาลสุรินทร์ มอบหมาย นางสุธาวัลย์ สัญจรดี รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล พร้อมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมแสดงความเสียใจกับญาติ และมอบใบประกาศจากสภากาชาดไทย ให้แก่ญาติของนายอุดม วงษ์วาท อายุ 39 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาที่อยู่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ซึ่งเสียชีวิตด้วยภาวะสมองตายเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 65
ต่อมาญาติได้แจ้งความประสงค์บริจาคอวัยวะให้แก่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย โดยทีมแพทย์ผ่าตัดได้ผ่าตัด อวัยวะที่บริจาค คือ ไต 2 ข้างและดวงตา 2 ข้าง และส่งมอบให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อช่วยต่อชีวิตได้อีก 4 ชีวิต ให้กับผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย และผู้ที่สูญเสียการมองเห็นที่หมดหวังจากการรักษาให้กลับมามีชีวิตใหม่
ทั้งนี้ ผอ.โรงพยาบาลสุรินทร์ นำทีมเจ้าหน้าที่ร่วมงานฌาปนกิจผู้บริจาคอวัยวะและดวงตา พร้อมกล่าวเชิดชูเกียรติและมอบใบประกาศจากสภากาชาดไทยให้แก่ญาติ ณ วัดบ้านคลองน้ำซับ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โรงพยาบาลสุรินทร์และสภากาชดไทย แสดงความเสียใจกับญาติผู้บริจาคอวัยวะ และขออนุโมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ที่ท่านมีจิตเมตตาเสียสละบริจาคอวัยวะเป็นทาน “ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการอุทิศอวัยวะ เมื่อยามสิ้นสูญ”
วันนี้วันที่ (2 ธันวาคม 2565) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับ นางสมพร อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถึงประเด็นการเสียชีวิตของลูกชาย และรวมไปถึงเหตุผลทำไมถึงได้คิดที่จะบริจาคอวัยวะให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์
นางสมพร เล่าว่า ย้อนเหตุการณ์ไปตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.65 ตนกับลูกชายได้เดินทางไปช่วยงานศพของคนในหมู่บ้าน โดยตนจะเป็นแผนกบัญชีส่วนลูกชายจะช่วยกางเต็นท์ และงานอื่นๆ พอช่วยขนของและกางเต็นท์จนเสร็จแล้วมานั่งพักสักครู่ ตนจึงเอ่ยปากถามลูกว่าจะกลับบ้านแล้วหรือ? ลูกชายตอบมาว่า “ไม่ยังไม่ได้กลับ” ตนจึงหันไปทำบัญชีต่อ
สักครู่ได้ยินเสียงโคร่มตนจึงหันไปดู และได้ยินชาวบ้านพูดว่าลูกชายตกจากรถมอเตอร์ไซต์ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลูกชายของตนได้ม้วนบุหรี่ กำลังจะสูบแล้วไปนั่งบนมอเตอร์ไซต์ที่จอดล้มใส่ขาตั้งไว้ ประมาณว่าดินทรุดทำให้มอเตอร์ไซต์ล้ม แล้วคนล้มหัวฟาดกับเหลี่ยมคอนกรีต
เมื่อตนเห็นแบบนั้นจึงวิ่งไปลูกชาย ปรากฏว่าเห็นลูกชายนอนหมดสติแล้วหัวแตกตนจึงหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ จนกระทั่งเกิดสภาวะสมองตายและได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์ ที่ตนเลือกบริจาคอวัยวะให้กับโรงพยาบาลเพราะว่ารู้สึกอยากต่อบุญต่อกุศลให้กับลูกชาย เพื่อที่จะต่อชีวิตให้กับผู้อื่น ปกติแล้วลูกชายเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานสังคมมาก เวลามีงานศพหรืองานบุญลูกชายจะไปช่วยกางเต็นท์และช่วยงานเสมอ
Advertisement
