ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก น้ำอุ่น 8 ปี กับพวกอีก 3 คนคนละ 5 ปี 4 เดือน จากกรณีที่มอมเหล้า "ลัลลาเบล" จนเสียชีวิต ขณะที่จำเลยที่ 5 และ 6 ยกฟ้อง
ศาลอาญาธนบุรี ถ.เอกชัย ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีพริตตี้ลัลลาเบลเสียชีวิต ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 2 เป็นโจทก์ และมารดาของน.ส.ธิติมา หรือลัลลาเบล ผู้ตาย เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร อายุ 27 ปี อาชีพพริตตี้บอย ภูมิลำเนาเอกชัย-บางบอน กทม. จำเลยที่ 1 , นายชัยพล หรือคิว พรรณนา อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาบางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าของงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง จำเลยที่ 2 , นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาลาดพร้าว กทม. จำเลยที่ 3 , น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญภา อายุ 25 ปี แฟนสาวของคิว ภูมิลำเนาหนองหาน จ.อุดรธานี จำเลยที่ 4 , นายกฤษฎา หรือโนบิ โลหิตดี อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี จำเลยที่ 5 , นายโกเศศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาบางบัวทอง จ.นนทบุรี จำเลยที่ 6
ในความผิด 4 ข้อหา ซ่องโจร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ ,กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
โดยวันนี้ ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษา เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1-4 เป็นความผิดจริงตามฟ้อง อุทธรณ์จำเลยที่ 1-4 จึงยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น ส่วนอุทธรณ์จำเลยที่ 5-6 อ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นเพียงบุคคลหรือแขกที่ถูกชักชวนไปสังสรรค์ร่วมงานครั้งแรก ไม่ได้ร่วมจัดงาน ดังนั้นพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1-4 ฐานสนับสนุนฯ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้ลงโทษ จำคุกจำเลยที่ 1-4 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยที่ 5-6 ยกฟ้อง
ภายหลังฟังคำพิพากษา มารดาและบิดาของลัลลาเบล เปิดเผยว่า ยอมรับคำตัดสินของศาล ก็จะมีการพิจารณาเรื่องยื่นฎีกากับทนาย ที่ผ่านมาเดือดร้อนต้องเลี้ยงดูหลาน และมีรายได้จากการทำขนมขายเท่านั้น แม้จะมีบุคคลภายนอกช่วยเหลือค่าเทมอแต่ก็ไม่เพียงพอค่ากินค่าอยู่
ด้านทนายสุรเดช พจน์ยินดี ทนายความของญาติลัลาเบล เปิดเผยว่า วันที่ 31 จะนำคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยื่นต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย ที่คำนวณไว้ประมาณ กว่า 13 ล้านบาท อาทิ ค่าเล่าเรียน ค่าใข้จ่าย ค่ารักษาหลานที่ป่วย ซึ่งจะมีการตกลงค่าเสียหายอีกครั้งโดยขอให้จำเลยจ่ายเยียวยาเนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการเยียวยาเลย
ทางด้านนายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิ จำเลยที่ 5 และนายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ จำเลยที่ 6 เปิดเผยว่า สาเหตุที่ศาลยกตนเนื่องจากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเพียงแขกที่ไปร่วมงานเพียงเท่านั้น ส่วนที่พนักงานสอบสวนกลับยื่นฟ้องทุกคนมองว่าไม่เป็นธรรมเกินกรอบของกฎหมาย สัวคมได้เห็นแล้วตนพ้นจากคำครหาทั้งหมดและมองว่าจำเลยทุกคนไม่ได้โจรโดยสันดานเป็นเพียงวัยรุ่นที่ชอบดื่มสุราสังสรรค์เฉยๆ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวลัลชาเบลด้วย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวเลย ส่วนที่ตนยกฟ้องแล้วก็ไม่จำเป็นต้องชดเชยใดๆ แต่หากทางครอบครัวต้องการความช่วยเหลือก็ยินดีจะช่วยเหลือเยียวยาและหลังจากนี้ตนจะไปบวชให้ลัลลาเบล 1 พรรษา
Advertisement