"ชูวิทย์" เปิดปากพยานเพื่อนดาราสาวไต้หวัน ปมตำรวจรีดไถเงิน พยานลั่นซ์้อบุหรี่ไฟฟ้าที่ตลาดห้วยขวาง ขายกันเยอะแยะ ไม่คิดว่าผิดกฎหมาย
วันที่ 1 ก.พ. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมือง นำนายสกาย ชายชาวสิงคโปร์ 1 ในเพื่อนดาราสาวไต้หวันที่โดนตำรวจไทยรีดไถเป็นเงินจำนวน 27,000 บาท
โดยก่อนที่นายสกาย จะเริ่มแถลงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ ได้นำปี๊ปมาประกอบการแถลง ด้วยการตีปี๊ป ต่อหน้าคลิปที่นำมาเปิดในห้องแถลงข่าวเป็นภาพของ พล.ต.สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่แถลงข่าวว่าไม่ได้มีตำรวจรีดเงินดาราสาวไต้หวัน
โดยบอกว่ามีคนโดนรีดโดนไถต้องเอาปี๊ปมาให้ เพราะต่างชาติเขามาแล้วกลัว เวลามาไทยกลัวตำรวจ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไปซื้อหามาจากตลาด แต่กลับถูกเรียกเงินและดิสเครดิต
หลังจากนั้นนายสกาย ได้เล่าเหตุการณ์โดยพูดเป็นภาษาไทยว่า “ถ้าไม่ไว้ใจชูวิทย์ ก็คงไม่มาที่นี่” พร้อมเล่าว่า เดินทางมาไทยไปงานวันเกิดเพื่อนที่ร้านอาหารย่านสุขุมวิท ได้เรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น เพื่อจะไปห้วยขวาง ไปกับเพื่อน 4 คน หนึ่งในนั้นคือ ดาราสาวไต้หวัน ระหว่างทางเจอด่านตรวจบริเวณหน้าสถานทูตจีน ตำรวจเรียกตรวจพาสปอร์ต ตนไม่ได้พกมา
สกาย บอกอีกว่า ตอนนั้นมีแต่พาสปอร์ต VOA และตำรวจได้ขอดูวีซ่า ซึ่งตนเคยเดินทางมาไทยหลายครั้ง รู้ว่าเดินทางมาไทยไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า แต่ยอมรับว่าพกบุหรี่ไฟฟ้ามา 3 อัน ส่วนดาราสาวไต้หวัน ไม่มีบุหรี่ไฟฟ้า
จากนั้นตำรวจได้ยึดบุหรี่ไฟฟ้า และมีตำรวจที่ใส่เครื่องแบบ ได้เรียกเงินเพื่อแลกกับการให้พ้นข้อหากรณีไม่มีวีซ่าและพกบุหรี่ไฟฟ้า โดยตำรวจบอกว่าหากไม่จ่ายต้องไปสถานีตำรวจ ติดคุก 2 วัน
“ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมาก และอยากกลับไวๆ รู้สึกกลัวตำรวจและกลัวติดคุก จึงจ่ายเงินให้ไปตอนนั้นมี 30,000 บาท และ 27,000 บาทเขาเอาไป เขาบอกว่าถ่ายรูปบุหรี่ไฟฟ้า และถ่ายรูปไว้” สกายกล่าว
สกาย กล่าวอีกว่า บุหรี่ไฟฟ้า ตนซื้อมาจากตลาดห้วยขวาง ไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากเห็นขายมีขายทั่วไป คิดว่าเหมือนกัญชาที่ถูกหมาย ก็เลยคิดว่าแล้วทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย
นายชูวิทย์ ถามว่าตอนนั้นสกาย เครียดหรือไม่ นายสกาย บอกว่าเครียด เพราะที่สิงคโปร์คนจะรู้อยู่แล้วว่าให้เงินกับตำรวจไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่
และเมื่อนายชูวิทย์ ถามว่าแล้วถ้าให้เงิน 27,000 กับตำรวจสิงคโปร์จะเป็นอย่างไร นายสกาย ถึงกับบอกอุทาน
มาที่นี่ไม่อยากเอาเรื่องอะไร แค่อยากมาพูดความจริง และยังอยากมาไทยอีก แต่ยอมรับว่ากลัวตำรวจไทย และรู้จักคำว่า “ไถ” สกายกล่าว
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ได้กล่าวขอโทษและยืนโค้งก้มหัวในฐานะคนไทย ที่ทำให้มีประสบการณ์ไม่ดีในการท่องเที่ยวที่ประเทศไทย พร้อมกล่าวยืนยันว่าตนจะอยู่เคียงข้างนายสกาย จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
นายชูวิทย์ ยังเรียกร้องขอให้ทาง สตช.ยกเลิกการตั้งด่าน เพราะเป็นช่องทางให้เกิดการรับสินบนจากตำรวจ และ ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงมาแก้ไขเรื่องนี้ด้วยตนเอง โดยหลังจากนี้ ตนเองจะเดินเรื่องประสานคดีนี้ผ่านทาง ผบ.ตร เพราะ บช.น.ไปมองประเด็นที่เล็กกว่า คือบุหรี่ไฟฟ้า แทนที่จะให้ความสำคัญกับประเด็นการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่่ และตนพร้อมที่จะเปิดโปง กระบวนการรีดไถในคดีนี้
หลังการแถลงข่าว นายสกายได้ขึ้นไปให้ปากคำกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ชั้น 2 ของโรงแรมเดวิส กรุงเทพ
Advertisement