สธ.เฝ้าระวังผู้ป่วย 3 กลุ่มอาการ อาจเกี่ยวโยงกับ "ซีเซียม-137"

สธ. จับตา 3 กลุ่มอาการ อาจเกี่ยวโยงกับ ซีเซียม-137 เผย อนุภาคกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องมือวัดอนุภาคของสารเท่านั้น

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

วันที่ 20 มี.ค.66 สืบเนื่องกรณีวัสดุ กัมมันตรังสีซีเซียม-137 หายไปจากโรงไฟฟ้าใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยในช่วงเช้าวันนี้ นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ไม่ปฏิเสธกรณี ซีเซียม-137 ถูกหลอม

ขณะที่ โฆษกสำนักงานปรมาณู แถลงข่าวโดยระบุว่า ไม่เจอการปนเปื้อนของสารรังสีออกมาในอากาศ น้ำ ดินรอบโรงงานและพนักงาน เนื่องจากโรงงานเป็นระบบปิด ตรวจวัดเจอ ซีเซียม-137 แค่ในถุงเก็บฝุ่นเหล็กเท่านั้น ปิดพื้นที่และควบคุมพื้นที่แล้ว

ล่าสุด นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งให้จับตา 3 กลุ่มอาการในจังหวัด อาจมีความเกี่ยวเนื่องกับ ซีเซียม-137 

1.อาการทางผิวหนัง เนื้อเยื่อ มีการระคายเคืองและเกิดอาการเนื้อตายหรือไม่

2.มีอาการคลื่นไส้เวียนหัว

3.กลุ่มอื่น ๆ ที่มีความเจ็บป่วย เช่น เม็ดเลือดขาวผิดปกติเป็นกลุ่มก้อน เพราะเม็ดเลือดขาวมีคุณสมบัติแตกตัวไว อาจจะส่งผลต่อเส้นผม

ทั้งนี้ อนุภาคกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่สามารถประเมินได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องมือวัดอนุภาคของสารเท่านั้น แม้ขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่ได้รับผลกระทบสุขภาพ แต่อยู่ในสถานการณ์ต้องเฝ้าระวัง หากมีผู้เข้ารับการรักษาแอดมิด อาจต้องแยกจากผู้ป่วยคนอื่นๆ 

สำหรับระยะเวลาคงอยู่ของ ซีเซียม-137 นพ.โอภาสกล่าวว่า ซีเซียม-137 มีครึ่งชีวิต 30 ปี คือ กว่าจะสลายตัวเหลือครึ่งเดียวใช้เวลา 30 ปี ไม่ว่าจะปนเปื้อนอยู่ที่ไหนทั้งสิ่งแวดล้อมหรือร่างกาย