เก็บไฟแช็ค –เจลแอลกอฮอล์ไว้เบาะหน้ารถ ท่ามกลางอากาศร้อนจัด เมียได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ วอดเสียหายทั้งคัน
วันที่ 6 เม.ย.66 ศูนย์วิทยุสถานีตํารวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ที่บ้านทุ่ง ต.นางรอง อ.นางรอง จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองนางรอง อบต.นางรอง หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ร่วมตรวจสอบและระงับเหตุเพลิงไหม้
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ รถยนต์กระบะจอดอยู่บริเวณข้างบ้านหลังหนึ่งใน ต.นางรอง ถูกไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้เร่งฉีดน้ำดับ โดยใช้ประมาณครึ่งชั่วโมง จึงสามารถดับไฟได้ แต่รถได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันแล้ว เพราะก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยฯ จะมาถึง ไฟได้ลุกไหม้รถคันดังกล่าวเป็นเวลานานแล้ว ทั้งเจ้าของและชาวบ้านพยายามนำน้ำมาดับ แต่ก็ไม่สามารถดับได้
จากการสอบถามนายบุญถือ อายุ 55 ปี เจ้าของรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า จอดรถกระบะไว้บริเวณดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเที่ยง จากนั้นก็ออกไปช่วยงานที่วัดในหมู่บ้าน จนกระทั่งภรรยาไปเห็น จึงโทรมาบอกว่าไฟไหม้รถยนต์ ตนตกใจรีบกลับมาดู ก็พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ แต่รถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันแล้ว ซึ่งบริเวณที่จอดรถก็อาศัยร่มเงาจากต้นไม้ แต่บางช่วงก็โดนแดด ประกอบกับในรถได้เก็บไฟแช็ค และเจลแอลกอฮอล์ไว้ในกระเป๋า ซึ่งวางเอาไว้บนเบาะหน้ารถด้วย อีกทั้งกระบะท้ายรถก็มีถ่านหุงต้มอยู่ด้วย สอดคล้องกับที่ภรรยาบอกว่า ก่อนจะเกิดไฟไหม้ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง จึงคาดว่าอาจเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ไฟแช็คเก็บไว้ในกระเป๋าบนเบาะหน้ารถเกิดระเบิด อีกทั้งยังมีเจลแอลกอฮอล์ และถ่านหุงต้มในรถที่เป็นเชื้อเพลิง ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วด้วย
“อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรจะเก็บไฟแช็ค หรือวัตถุใดๆ ที่อาจจะทำให้เกิดประกายไฟไว้ในรถ โดยเฉพาะช่วงนี้สภาพอากาศร้อนมาก อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้รับความเสียหายเหมือนกับตนเองได้”
Advertisement