รวบ "แพรวพราวเจ้าแม่ทุเรียนเก๊" ปิดตำนานทุเรียนทิพย์ เจ้ากรรมนายเวรชาว ระยอง-จัน-ตราด ทำผู้บริโภคระแวงทุเรียนออนไลน์
วันที่ 25 พ.ค.66 ตำรวจ PCT นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ชนัญชิดา คำหวาน หรือ แพรวพราว อายุ 27 ปี ที่ต.เขวาไร่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ ดังนี้ ข้อหา “ฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” และ ข้อหา “ฉ้อโกง , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
ตรวจสอบพบประวัติการก่อเหตุ “ฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ” กว่า 5 คดี
1.วันที่ 31 พ.ค. 65 พื้นที่ สน.ลาดกระบัง ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
2.วันที่ 2 มิ.ย. 65 พื้นที่ สน.โคกคราม ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
3.วันที่ 14 มิ.ย. 65 พื้นที่ สภ.เมืองพะเยา ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
4.วันที่ 14 ต.ค. 65 พื้นที่ สน.ดอนเมือง ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
5.วันที่ 7 ก.พ. 66 พื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 ได้มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าสู่ตลาด “ทุเรียนออนไลน์” โดยจะเข้าไปอยู่ตามกลุ่มขายของ ขายอาหาร ทั้งทางเฟซบุ๊ก และ กลุ่ม OpenChat ทางไลน์ จากนั้นจะโพสขายทุเรียน โดยอ้างเป็นทุเรียนหมอนทองคุณภาพดีจาก จ.จันทบุรี ในราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท ทำให้เหล่า “สายทุเรียน” ต่างตาลุกวาว เพราะเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดและเป็นทุเรียนคุณภาพจากสวนโดยตรง
เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้แล้ว ก็ไม่มีการส่งทุเรียนให้แต่อย่างใด ซึ่งมิจฉาชีพรายนี้ก่อเหตุลักษณะนี้มาเป็นเวลาหลายปี โดยอาศัยที่ยอดความเสียหายที่ไม่มาก ทำให้ผู้เสียหายหลายราย “ปล่อยผ่าน” หรือบางรายแจ้งความดำเนินคดีก็จะ “วิ่งแจ้น” เอาเงินไปเคลียอย่างรวดเร็ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามิจฉาชีพรายนี้คือ น.ส.ชนัญชิดา คำหวาน หรือ แพรวพราว อายุ 27 ปี ซึ่งได้มีการออกหมายจับกว่า 2 หมายจับ และจากการตรวจสอบพบข้อมูลการก่อเหตุอีกกว่า 5 คดี แต่เจ้าตัวยังตระเวนก่อเหตุ “ไม่เลิก” ทำให้ประชาชนกลุ่ม “คนรักทุเรียน” ต่างที่ได้รับความเดือดร้อนและหวาดระแวงที่จะต้องสั่งทุเรียนทางออนไลน์ กระทั่งความเดือดร้อนได้ส่งถึง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ส่งนำกำลังชุด PCT5 และ สืบนครบาล ลงพื้นที่แกะรอย โดยทราบว่า “เจ้าแม่ทุเรียนเก๊” รายนี้อยู่ละแวก ต.บางด้วน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ใช้แผน “ล่อเข้” หลอกให้เจ้าแม่รายนี้ขับรถมาให้จับกุมแบบงง-งง โดยจับกุมได้หอพัก ในอ.เมือง จ.สมุทรปราการ
น.ส.ชนัญชิดา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จุดเริ่มต้นของการเริ่มหลอกลวงขายทุเรียน เพราะว่าตนเองเป็นคนชอบกินทุเรียน ครั้งเมื่อไปเดินตลาดหาซื้อทุเรียนก็ได้ถ่ายภาพไว้จำนวนมาก เมื่อนำภาพทุเรียนเหล่านั้นมาโพสในโลกโซเชียล พบว่ามีคนสนใจจำนวนมาก จึงเกิดไอเดียที่จะหลอกขายทุเรียน และเมื่อมีรายใดเข้าแจ้งความก็จะนำเงินไปเคลียกับผู้เสียหาย ซึ่งมีจำนวนน้อยที่จะแจ้งความ เพราะยอดเงินที่ตนเองหลอกลวงนั้นไม่สูงมาก คนส่วนใหญ่จึงมักปล่อยผ่าน และล่าสุดตนเองมีความตั้งใจจะเปลี่ยนจากการหลอกขายทุเรียนเป็นการหลอกขายอาหารสด โดยจะส่งเฉพาะคนที่อยู่ใกล้ๆบ้าน หากใครอยู่ไกลก็จะไม่ส่ง” หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการสืบสวนของเรา ผู้ต้องหารายนี้เป็นตัวการทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่มีการใช้บัญชีม้าใดๆ เพราะมั่นใจและเข้าใจว่า ถ้าถูกแจ้งความก็แค่เอาเงินไปเคลีย ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย ผมต้องการให้คนแบบนี้ได้รับโทษ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้เคยตกเป็นเหยื่อ แม่ว่าจำนวนเงินจะไม่มาก แต่จะเป็นการทำให้เหล่ามิจฉาชีพย่ามใจและก่อเหตุไปเรื่อยๆ ฉะนั้น จงอย่าปล่อยผ่าน และเราจะมีการยกระดับทั้งการสืบสวนและการจับกุม เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 และเพื่อยกระดับตำรวจไทยสู่สากลเพื่อตอบโจทย์ในโลกยุคใหม่ และแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”
Advertisement