ป้าวัย 65 ป่วยเส้นเลือดสมองตีบ กัดฟันสู้ชีวิต ขายกาแฟโบราณ เลี้ยงลูกพิการติดเตียง

แม่เลี้ยงเดี่ยว วัย 65 ป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบ กัดฟันสู้ชะตาชีวิต กลางวัน ขับรถเร่ ขายกาแฟโบราณ กลางคืน ออกหาเก็บเศษกระดาษลัง เลี้ยงลูกพิการ

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบรถ จยย.พ่วงข้างที่เป็นลักษณะ รถเร่ขายกาแฟ โดยมีแม่ค้าเป็น หญิงสูงวัย อายุ 65 ปี ทราบว่าหลังสามีเสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีก่อน ต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูก 3 คน พิการอีก 1 คน ขณะอีก 2 คนก็กำลังอยู่ในวัยเรียน

ขณะที่ตนเองก็ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องเดินทางไปพบแพทย์ ต่างจังหวัดทุกเดือน จำต้องอดทนสู้ชีวิต ตอนเช้าต้องขับ จยย.ออกเร่ขายกาแฟโบราณ ขณะเที่ยงคืนก็ต้องออกไปหาเก็บเศษกระดาษลังจากตลาด และห้างร้านไว้ขาย เก็บเล็กผสมน้อยพอเป็นเงินไว้เลี้ยงชีวิตตนเองและครอบครัว วอนผู้ใจบุญช่วยเมตตาหวังให้มีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายปรีชา สีโสดา นายก อบต.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ว่าอยากให้สื่อมวลชนได้ช่วยเผยแพร่ข่าวให้ผู้ใจบุญได้เมตตาช่วยเหลือครอบครัวรายนี้ด้วย หลังรับทราบจึงเดินทางไปยังบ้านเป้าหมายดังกล่าว ได้พบกับ นางนาง ฑีฆะวัฒน์ หรือ เป็นที่รู้จักของเพื่อนบ้านว่า ยายจิ๋วหลิว กาแฟโบราณ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 136 ม.15 ต.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ขณะกำลัง ดูแลลูกชายที่พิการนอนอยู่บนเตียง

ทั้งนี้ ยายจิ๋ว ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สามีตนเองเสียชีวิตไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีมาแล้ว ทิ้งลูกชาย 3 คน ที่ตนต้องทำหน้าที่ดูแล ก่อนนั้นก็ไม่ค่อยลำบากเท่าใดนัก เพราะมีลูกชายคนโต ทำหน้าที่ขับรถ จยย.รับจ้าง พอได้เงินช่วยเหลือครอบครัวบ้าง

แต่เมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมาลูกชายคนโตได้ประสบอุบัติเหตุ จยย.ล้มทำให้สมอง แขน ขาพิการ เดินไปไหนไม่ได้ ตนต้องทำหน้าที่หนักกว่าเดิม ต้องดูแลลูกชายที่พิการตลอดมา ขณะที่ลูกชายอีก 2 คน ที่กำลังเรียน ปวช.และอีกคนกำลังเรียนชั้น ป.6 ซึ่งเป็นวัยที่กำลังใช้เงินทั้งคู่

ทั้งนี้ ยายจิ๋ว ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยภาระที่หนักหน่วง ตนจำต้องอดทนสู้ชีวิต โดยช่วงเช้า จะทำกับข้าวให้ลูก 2 คนได้กินไปโรงเรียน จากนั้นจะดูแลลูกชายผู้พิการ ก่อนจะจัดเตรียมอุปกรณ์ออกไปขายของ หลังเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้นก็จะออกจากบ้านประมาณ 08.30 น. ซึ่งจะปิดประตูบ้านให้ลูกชายนอนดูทีวีเพียงลำพัง

ส่วนช่วงเย็น ลูกชาย 2 คนหลังกลับจากโรงเรียน ก็จะทำหน้าที่ในการดูแลพี่ และดูแลบ้าน คอยหุงข้าวไว้รอแม่กลับมา จนถึงเวลา 17.00 น. ตนก็จะกลับเข้าบ้านอีกครั้ง ที่ตนจำเป็นต้องดิ้นรนหาเงินเพราะมีค่าใช้จ่ายมาก โดยเฉพาะค่าแพมเพิร์สที่ต้องใช้เปลี่ยนให้ลูกชายที่พิการทุกวัน ขณะที่ตนเองก็ต้องหาเงินไว้สำหรับรักษาตัวด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ที่ รพ.ขอนแก่น เป็นประจำทุกเดือน

ที่ผ่านมาก็ได้รับความเมตตาจากเพื่อนบ้านที่ได้มาช่วยซ่อมแซมบ้าน ทำประตูทางเข้าใหม่ เปลี่ยนหลังคาหน้าต่าง ทาสีให้ใหม่

ขณะที่ทาง อบต.รัตนบุรี โดย นายกปรีชา สีโสดาและภรรยา ก็คอยนำเงินส่วนตัวและสิ่งของมามอบให้เป็นประจำทุกเดือน ตนก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร ทุกวันนี้อยากวิงวอนให้ผู้ใจได้ช่วยเหลือโดยเฉพาะแพมเพิร์สที่มีความต้องการอย่างมาก คุณยายจิ๋วกล่าว

ขณะที่ นายปรีชา สีโสดา นายก อบต.รัตนบุรี กล่าวว่า คุณยายจิ๋วเป็นที่รักใคร่ของคนในชุมชนมาก ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ให้ความสงสารมาช่วยกันปรับปรุงบ้านพัก ทาสีให้ใหม่จนดูสวยงาม ขณะที่ อบต.รัตนบุรี เองก็ให้การช่วยเหลือได้แต่ไม่มากนักเพราะยังมีผู้ด้อยโอกาสในตำบลอีกมาก

แต่อย่างไรก็ตามตนและครอบครัวก็ไม่เคยทิ้งได้นำสิ่งของมามอบให้คุณยายจิ๋วอยู่เป็นประจำเช่นกัน เป็นการให้กำลังใจกัน สำหรับท่านผู้ใจบุญที่อยากช่วยเหลือคุณยายจิ๋วก็สามารถ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณยายจิ๋ว 062-354-3186 และที่ นายกปรีชา สีโสดา 091-020-1475