"เจษฎา"หลั่งน้ำตาวิดีโอคอลลูกสาวคนโตขอเห็นหน้าครั้งสุดท้ายก่อนเข้าเรือนจำ ด้านลูกสาวดีใจได้คุยกับแม่ โดยไม่รู้ว่าตกเป็นผู้ต้องหาทำน้องเสียชีวิต 4 คน
พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ระหว่างควบคุมตัวนางสาวเจษฎา มีเพียร ผู้ต้องหาร่วมกันกับนายส่องศักดิ์ ส่งแสง หรือ เอ็ม ทำร้ายร่างกายลูกชาย 4 คนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งอำพรางในท้องที่ สน.บางซื่อ และสน.สายไหม นางสาวเจษฎา ได้ร้องขอกับตำรวจชุดจับกุม 3 ข้อ คือ ขอให้ช่วยนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูก ขอให้ตำรวจช่วยแวะเวียนไปดูแลลูกสาววัย 12 ขวบ คือ เด็กหญิงวิญาดา หรือ น้องปิ่น ที่ขณะนี้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. และสุดท้ายขอวิดีโอคอลหาลูกสาว ก่อนที่จะถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาล
เมื่อได้รับการร้องขอจากนางสาวเจษฎา ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็ได้มีการนำเรียนกับผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมต่างๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีผลกระทบต่อรูปคดีก็จึงได้ดำเนินการตามที่นางสาวเจษฎา ร้องขอ
โดยในเรื่องของการทำบุญได้มีการดำเนินการไปแล้วเมื่อวานนี้ และเช้าวันนี้ก็ได้ให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ พม. เพื่อให้เปิดกล้องวิดีโอคอลลูกสาวคนโตของนางสาวเจษฎา ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้แม่ลูกได้ใช้พูดคุยกันประมาณ 2 นาที
โดยนางสาวเจษฎา ได้ยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้เห็นหน้าลูกสาว พร้อมกับถามว่าเป็นยังไงบ้าง กินข้าวได้หรือไม่ ซึ่งลูกสาวได้ตอบว่ากินได้ พร้อมกับยิ้มหัวเราะเมื่อได้เห็นหน้าแม่ จนทำให้นางสาวเจษฎา หลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ ก่อนที่จะถูกคุมตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหานำตัวไปขอฝากขังต่อศาล
ทั้งนี้สำหรับลูกสาวของนางสาวเจษฎา นั้นไม่ทราบเรื่องที่แม่ของตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพ่อทำร้ายร่างกายน้องชาย 4 คนเสียชีวิต และจะต้องถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำ ซึ่งน้องปิ่น วัย 12 ขวบ เป็นลูกสาวคนเดียวของนางสาวเจษฎา ที่รอดชีวิต.
Advertisement