เปิดผลชันสูตรเหยื่อกราดยิง ญาติสะอื้นรับศพสาวเมียนมา ขอสื่องดสัมภาษณ์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มอบหีบศพให้ผู้เสียชีวิต
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ บรรยากาศทั่วไปได้มีสื่อมวลชนมาปักหลักรอพบญาติผู้เสียชีวิตของ น.ส.เมา เมจิน อายุ 30 ปี ชาวเมียนมา จากเหตุการณ์เด็ก 14 กราดยิงกลางห้างฯดัง
โดยขั้นตอนในการรับศพหากเป็นบุคคลคนต่างชาติ ทางญาติจะต้องเดินทางไปที่สถานฑูตของประเทศนั้นๆ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ก่อนที่จะให้ทางสถานทูตได้มีการมอบหมายให้กับญาติหรือบุคคลใดที่เกี่ยวข้องมารับร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งทางสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจมีความพร้อม สามารถมอบร่างให้กับญาติได้ทันที เพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
นายสกลภัทร กิจดำรงรัชต์ พนักงานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เกิดขึ้นกับผู้เสียชีวิตแล้วก็ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทางกระทรวงจะดำเนินการตามพระราชบัญญัติในคดีอาชญากรรมร้ายแรง ส่วนของการเยียวยาของกระทรวงยุติธรรมจะแบ่งเป็น 2 กรณี
กรณีแรกผู้เสียชีวิต เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างชาติ จ่ายรายละ 2 แสนบาท ส่วนผู้รับบาดเจ็บต้องให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะดำเนินการได้ เนื่องจากการเยียวยาจะสามารถพิจารณาได้ต้องผ่านความเห็นจากคณะอนุกรรมการเป็นผู้พิจารณาเป็นรายบุคคล แบ่งเป็นค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรคภาพ ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์รายได้ไม่เกิน 1 ปี ใน กทม. วันละ 353 บาท และค่าตอบแทนความเสียหายอื่นๆ ไม่เกิน 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับอนุกรรมการจะพิจารณา
ต่อมาเวลา 12.10 น. น้องสาวพร้อมญาติและเพื่อนร่วมงานจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาพร้อมกับเอกสารจากสถานทูตเพื่อติดต่อขอรับศพน.ส.เมา เมจิน อายุ 30 ปี ชาวเมียนมา ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดผาสุกมณีจักร ถ.ป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผลชันสูตรเบื้องต้นปอดและขั้วหัวใจฉีกขาด จากกระสุนปืนทำลาย โดยเพื่อนร่วมงานได้เผยสั้นๆว่า ขอความเป็นส่วนตัว งดให้สัมภาษณ์
ทั้งนี้โลงศพสำหรับบรรจุน.ส.เมา เมจิน อายุ 30 ปี ชาวเมียนมา บริเวณฝาโลงศพได้มีการติดป้ายกระดาษเอสี่ว่า หีบศพมอบโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อุทิศให้กายสังขารเทวดาประจำตัวและเจ้ากรรมนายเวรทุกภพชาติ 4 ต.ค. 66
ใต้ฝาโลงมีการเขียนเลข 94 อีกด้วย ระหว่างการรับศพผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าจะดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างไรหรือไม่ ด้านน้องสาวได้แต่สะอื้นร้องไห้
Advertisement