ญาติโวย แพทย์เวร เข้า พิสูจน์ ช้า ปล่อยให้ ศพ นอนแช่น้ำนาน 2 ชั่วโมง หลังยายวัย 72 ปี ตกน้ำเสียชีวิต
พนักงานสอบสวน สภ.มืองพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง และแพทย์เวรโรงพยาบาลพัทลุง เข้าตรวจสอบเหตุหญิงจมน้ำเสียชีวิตในคลองรางสาด ม.10 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง พบร่างของนางสาวเสงี่ยม ขุนรักษ์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.3 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง
สภาพนอนคว่ำหน้า ลอยอยู่ในคลองดังกล่าว ซึ่งมีความกว้างประมาณ 10 เมตร ลึกกว่า 3 เมตร ลักษณะน้ำนิ่ง บริเวณริมคลองห่างจากศพประมาณ 5 เมตร พบร่องรอยผู้ตายพยายามตะเกียกตะกายจนต้นหญ้าล้มเป็นแถบ
นางพวงรัตน์ ปรีชายุทธ์ หลานสาวผู้ตาย เล่าว่า เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ตายเริ่มป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ อาศัยอยู่กับเธอและหลานๆที่มีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกันช่วยกันดูแล เมื่อช่วงค่ำประมาณ 20.00 น.เธอให้ผู้ตายเข้าบ้านปิดประตู โดยเธอใช้เชือกผูกประตูแทนใส่กุญแจอย่างทุกวัน มารู้ตอนเช้าพบว่าเชือกที่มัดประตูขาด ตัวผู้ตายก็หายออกจากบ้าน เธอจึงออกตามหาในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง จนกระทั่งมาพบกลายเป็นศพลอยในคลองห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กม.
เจ้าหน้าที่สอบถามญาติเก็บภาพในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ชาวบ้านให้ความสนใจมามุงดูทั้ง 2 ฝั่งคลองเป็นจำนวนมาก จนผ่านไปกว่าชั่วโมง ญาติเริ่มสงสัยในเรื่องของการนำศพขึ้นมาพิสูจน์ให้เสร็จ ทางเจ้าหน้าที่อ้างต้องรอแพทย์เวร จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ชาวบ้านและญาติๆต่างวิพากษ์วิจารณ์กันมากขึ้น
นางพวงรัตน์ บอกว่า ตนมาพบศพประมาณ 7 โมงเช้า แจ้งกู้ภัย แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม แต่กลับต้องมารอแพทย์เวรนานเป็นชั่วโมง ทั้งๆที่ญาติไม่ได้ติดใจการการเสียชีวิต เพราะทราบดีว่าเป็นการเดินตกน้ำของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ แต่ต้องมารอแพทย์นาน 2 ชั่วโมง เธอต้องการเพียงให้เจ้าหน้าที่นำร่างของผู้ตายขึ้นมาก่อน เพื่อรอแพทย์เวรทั้งๆที่แพทย์ตรวจบนฝั่ง ไม่ได้ลงไปตรวจในน้ำ
อย่างไรก็ตามหลังจากแพทย์เวรมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำร่างผู้ตายขึ้นมา จากการตรวจสอบตามร่างกายของแพทย์เวรไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด พร้อมสรุปสาเหตุการตายมาจากจมน้ำ จึงมอบร่างให้กับญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.
Advertisement