ลืออาถรรพ์เจ้าที่แรง! ช่างสร้างโบสถ์ กระโดดสระน้ำดับ กู้ภัยงมค้นหา ก่อนพบศพติดอยู่ตรงเสาเอก เชื่อเป็นการขอตัวตายตัวแทนตามคำทำนายของพระเกจิอาจารย์
ร.ต.ท.สุระชัย ไพเราะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เรณูนคร จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีช่างก่อสร้างโบสถ์กลางน้ำในวัดศรีบุญเรือง บ้านนาดี หมู่ 5 ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม จมน้ำสูญหายในสระน้ำดังกล่าว จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลเรณูนคร รวมถึงทีมประดาน้ำจากสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบค้นหาร่างผู้สูญหาย ชุดประดาน้ำสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนมใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็พบร่างผู้เสียชีวิตจมอยู่ก้นสระขนาดความลึกกว่า 4 เมตร ใกล้เสาเอกของโบสถ์กลางน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างจึงกู้ร่างขึ้นมาจากน้ำ
ทราบชื่อภายหลังคือนายสายสิทธิ์ ถาวรพงษ์ อายุ 34 ปี ช่างก่อสร้างโบสถ์ ชาว ต.หนองบ่อ อ.เมืองอุบลราชธานี สภาพศพใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ และไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรอบบริเวณโบสถ์เพื่อเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี ก่อนส่งศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี
จากการสอบสวนญาติรวมถึงผู้เห็นเหตุการณ์ในวัดเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าพบว่านายสิทธิ์ผู้ตายมีอาการผิดปกติ เหม่อลอยเหมือนคนไม่มีชีวิตจิตใจ ทีมช่างที่ก่อสร้างโบสถ์กลางน้ำและคนงานรวมถึงญาติๆ พยายามเกลี้ยกล่อมให้ลงมาจากหลังคาโบสถ์ขนาดความสูงเกือบ 20 เมตร โดยวันนี้เป็นการยกช่อฟ้าบางส่วนขึ้นสู่บนหลังคาโบสถ์
จนกระทั่งช่วงบ่ายนายสิทธิ์มีอาการคล้ายประสาทหลอนซึ่งทีมช่างและคนงานใกล้ชิดยืนยันว่าไม่ได้มีอาการเมาจนขาดสติ แต่ยอมรับว่าผู้ตายชอบดื่มเหล้าแต่สามารถทำงานได้ปกติ จนกระทั่งได้เกิดเหตุไม่คาดคิด นายสิทธิ์ตะโกนดังสุดเสียงว่าวันนี้ต้องตายให้ได้ และพยายามกระโดดลงมาจากหลังคาโบสถ์ที่สูงเกือบ 20 เมตร ตกลงมากลางสระน้ำลึก
ชาวบ้านและทีมคนงานได้ช่วยเหลือไว้ทันก่อนนำขึ้นมาสงบสติอารมณ์ ซึ่งขณะนั้นนายสิทธิ์ยังมีอาการคล้ายคนประสาทหลอนตีอกชกตัวบ่นว่าอยากตายๆ ทีมช่างและชาวบ้านใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที สุดท้ายจังหวะชาวบ้านเผลอนายสิทธิ์วิ่งหนีกระโดดลงกลางสระน้ำอีกครั้งร่างจมหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมงานจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่มาค้นหาศพ ส่วนแม่ของผู้ตายยืนยันว่าลูกชายไม่เคยป่วยทางจิตมาก่อนถึงขั้นประสาทหลอน
ทั้งนี้มีชาวบ้านส่วนหนึ่งต่างพากันร่ำถือถึงอาถรรพ์สิ่งลี้ลับในสระน้ำดังกล่าว เชื่อว่ามีเจ้าที่แรงเพราะเป็นสระน้ำโบราณอายุมากกว่า 100 ปี เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับการก่อตั้งหมู่บ้าน เดิมเป็นโบสถ์ไม้กลางน้ำ กระทั่งปี 2563 ชาวบ้านร่วมกับทางวัดศรีบุญเรืองได้รื้อถอนพัฒนาขุดลอกสระน้ำและระดมพลังศรัทธามาก่อสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่แทนหลังเดิมที่เป็นไม้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท
ก่อนก่อสร้างได้ประกอบพิธีบวงสรวงในสระน้ำดังกล่าวและเคยเกิดเรื่องลี้ลับหลายอย่าง อีกทั้งมีพระเกจิทักท้วงว่าเจ้าที่มาขอตัวตายตัวแทน 1 ชีวิต รวมถึงเคยมีปัญหาการก่อสร้างขณะวางเสาเข็มไม่สามารถเทฐานรากได้เพราะดินโคลนทรุดกลางสระน้ำ จึงต้องมีการทำพิธีทางความเชื่อขอเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงสามารถก่อสร้างได้ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเชื่อกับคำทำนายและสุดท้ายไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางส่วนร่ำลือว่าคนงานช่างอาจไปลบหลู่เจ้าที่เจ้าทางชวนกันดื่มเหล้าในบริเวณวัดและขณะทำงานก่อสร้างโบสถ์ไม่ศรัทธาต่อเจ้าที่จึงเกิดอาถรรพ์ถึงขั้นเอาชีวิตคนงานดังกล่าว
Advertisement