ถึงแม้จะหมดอำนาจคุมตัว เด็ก 14 ยิงที่พารากอน แต่ก็ยังไม่ได้กลับบ้าน ที่ประชุม 3 ฝ่ายเห็นพ้อง รักษาต่อที่สถาบันกัลยาณ์ฯ ผู้ปกครองจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
ความคืบหน้าเด็ก 14 ปี ที่ก่อเหตุกราดยิงในห้างพารากอน เช้านี้ (1 ม.ค. 67) มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทีมแพทย์ และผู้ปกครองของเด็กผู้ก่อเหตุ เพื่อวางแผนรักษาเด็ก ซึ่งก็เห็นพ้องให้เด็กรักษาตัวอยู่ที่สถาบันกัลยาณ์ฯ ต่อ ไม่อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน
นางสาว ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมคณะรวมถึงผู้ปกครองของเด็กอายุ 14 ปี ที่ก่อเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้ากลางกรุงเทพฯ ก็เดินทางมาที่ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อประชุมร่วมกัน และกำหนดแผนการรักษาอาการเด็ก 14 ปี หลังจากเมื่อวานนี้ ( 31 ธ.ค.66) เจ้าพนักงานหมดอำนาจควบคุมตัวเด็กชายอายุ 14 ปี เนื่องจาก อัยการยังไม่ฟ้องคดีจากปัญหาสถานะเด็กที่ไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ซึ่งยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 ให้งดการสอบสวนไว้ก่อนจนกว่าเด็กจะมีอาการดีขึ้น
โดยผลหารือขั้นต้น เห็นควรยังคงให้เด็ก 14 ปี รักษาตัวอยู่ที่สถาบันกัลยาณ์ฯ ต่อไป เพื่อให้เด็กมีอาการดีขึ้นตามลำดับโดยเร็ว และจะดีกว่าการอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เพราะอาจมีสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมไม่ได้ เสี่ยงกระทบอาการของเด็ก
ต่อมาเวลา 11.00 น. รถยนต์ของเจ้าหน้าที่กรมพินิจฯ แพทย์ และผู้ปกครอง ทยอยขับรถออกจากโซนอาคารรักษาตัวของผู้ป่วยซึ่งปิดกั้นไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ โดยไม่มีผู้ใดให้ข้อมูล
น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า กรมพินิจฯ ไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวเด็ก จึงมาแจ้งสถาบันกัลยาณ์ฯ และส่งมอบให้ผู้ปกครองลงนามรับตัวเด็ก ก่อนจะหารือเรื่องการรักษาตัวต่อภายในสถาบันฯ โดยผู้ปกครองยินยอมให้สถาบันฯ รักษาตัวต่อไป โดยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ เอง แต่ไม่สามารถระบุกรอบเวลาการรักษาตัวได้ จากนี้ถือว่าหมดอำนาจการควบคุมของกรมพินิจฯ แล้ว
Advertisement