พระเล่า นาทีชาวบ้านมีอาการหายใจไม่ออก บอกเลขกู้ภัยผิด ทำให้โทรไม่ติด ย้อนคิดภายหลัง ตั้งแต่ต้นปี 67 ทำไมตายติดต่อ 6 ศพ เชื่อเป็นอาถรรพ์โลงเย็นที่ใช้ต่อกัน
จากกรณีความเชื่อของหลวงพ่อรูปหนึ่งในหมู่บ้านขาวัว หมู่ 5 ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ที่บอกว่าตั้งแต่ต้นปี 2567 มา มีคนในหมู่บ้านตายติดต่อกันถึง 6 ศพ และศพล่าสุดก็ตายต่อหน้าต่อตนเมื่อวานนี้ 21 มกราคม 2567 ภายในโรงครัวของวัดโพธิ์ศรีสะอาด
ล่าสุดวันนี้ 22 มกราคม 2567 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปยังวัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และมีโอกาสได้คุยกับ “พระบุญเฮียง กิตตะกาโร” อายุ 63 ปี พระลูกวัด เจ้าตัวเล่าเหตุการณ์ขณะที่เห็น “นายบรรดา ประจักษ์ศิลา“ อายุ 57 ปี เสียชีวิต ซึ่งจากคำบอกเล่าตอนแรก บอกว่านี่เป็นศพที่ 6 ของเดือนมกราคม 2567
“พระบุญเฮียง” บอกว่าผู้ตายมานั่งเล่นที่วัดตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. แล้วบ่นว่ารู้สึกแน่นท้อง ก็เลยไปนอนพักอยู่ที่ศาลา ก่อนจะกลับบ้านในช่วงเที่ยง จากนั้นประมาณ 13.00 น. ก็เดินกลับมาที่วัดอีกรอบ แต่รอบนี้อาการเริ่มผิดปกติ กระสับกระส่าย ถามอะไรก็ไม่ตอบ แต่จู่ ๆ ก็ถอดเสื้อมาพัดลมและไปเอาน้ำพรมตัว ตนก็เลยบอกให้นั่งพักที่เก้าอี้ก่อน
พอนั่งไปได้สัก 30 นาที ก็ตะโกนบอกให้ตนที่นั่งอยู่บนแคร่ใกล้ ๆ กันว่า “ไปบอก อบต.ให้หน่อย ผมจะไปหาหมอ รู้จักเบอร์โทรรถกู้ภัยไหม” ตาก็บอกว่าไม่รู้จัก เขาก็บอกให้ตนจดเบอร์โทร 069 ตนจึงเอาดินสอไปจดไว้ที่ฝาผนัง แต่พอโทร ก็ไทรไม่ติด โทรไป 3 รอบก็ไม่ติดสักรอบ
ตนก็เลยหันมาบอก “นายบรรดา“ แค่ตอนนี้ภาพที่เห็นคือ เขานอนกางแขนทิ้งตัวบนเก้าอี้ไปแล้ว ตาปรือและค่อย ๆ ปิดลงเรื่อย ๆ พลางพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า ”หายใจไม่สะดวก“ ตนก็เลยรีบไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ วัด แต่พอกลับมา ”นายบรรดา“ เสียชีวิตแล้ว เพราะจับชีพจรไม่วิ่งและตัวเย็น ท้องแข็งไปหมด
เจ้าตัวบอกว่าเท่าที่จำได้นี่ถือเป็นศพที่ 6 ของเดือนมกราคม 2567 ที่มีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเสียชีวิตเนื่องจากดื่มเหล้าเยอะ แล้วมีอาการช็อก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก บางรายก็เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันและโรคชรา บางรายเสียที่บ้าน บางรายก็เสียที่โรงพยาบาล
แต่ที่ตนตั้งข้อสังเกตคือทุกศพจะใช้บริการโลงเย็นของบริษัทหนึ่งเหมือนกัน ก็เลยเชื่อว่านี่อาจจะเป็นอาถรรพ์โลงเย็นหรือเปล่า หมายความว่าเจ้าของโลงอาจมีการทำพิธีบางอย่างให้มีการตายต่อเนื่อง เผาศพแรก ก็ทำให้มีศพที่สอง ที่สาม ที่สี่ จะได้ใช้บริการเช่าโลงของเขาเรื่อย ๆ แต่มันก็เป็นแค่ความเชื่อส่วนบุคคล เพราะในหมู่บ้านไม่ได้มีเรื่องอาถรรพ์อย่างอื่น เจ้าที่เจ้าทางของหมู่บ้านก็มีการบวงสรวงทุกปี ในช่วงเดือนหก
ซึ่งนักข่าวสังเกตุเห็นที่บริเวณผนังในโรงครัว มีร่องรอยการเขียนตัวเลขอยู่ 3 ชุดด้วยกัน ชุดแรกคือเลข 069 ที่ตัวของ ”นายบรรดา” บอกให้ “พระบุญเฮียง” เขียนก่อนเสียชีวิต ซึ่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเลขของกู้ภัย ส่วนเลขชุดที่ 2 คือเลข 1669 ซึ่งพยาบาลที่เข้ามารับศพเมื่อวานนี้เป็นคนเขียนตั้งไว้ให้ และเลขชุดสุดท้ายคือ 072 เป็นตัวเลขเก้าอี้ที่ “นายบรรดา“ นั่งขณะเสียชีวิต
ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามกับคนในหมู่บ้านเกี่ยวกับทั้ง 6 ศพ พบว่าจริง ๆ แล้วถ้าไล่เรียง บุคคลที่เสียชีวิตในเดือนมกราคม 2567 มีเพียงแค่ 4 ศพ แต่คาดว่าคนที่ให้ข้อมูลในตอนแรก อาจจะจำจำนวนและช่วงเวลาคลาดเคลื่อน เพราะช่วงปลายปี 2566 ก็มีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายรายเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะมีที่มาที่ไปของการตายทั้งหมด ไม่ได้เสียชีวิตแบบปริศนา
ศพที่ 1 ”นายวรพงษ์” อายุประมาณ 62 ปี เสียชีวิตเนื่องจากดื่มเหล้าหนัก บวกกับร่างกายไม่แข็งแรงเพราะถูกรถชน เสียชีวิตที่บ้าน วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566
ศพที่ 2 “นางสำลี“ อายุประมาณ 40 ปี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เสียชีวิตที่โรงพยาบาล วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566
ศพที่ 3 “นางนา” อายุประมาณ 80 ปี เสียชีวิตด้วยโรคชรา เสียชีวิตที่บ้าน วันที่ 17 ธันวาคม 2566
ศพที่ 4 ”นางกองศรี“ อายุ 75 ปี เสียชีวิตด้วยโรคชรา เสียชีวิตที่บ้าน วันที่ 20 ธันวาคม 2566
ศพที่ 5 “นางทอง“ อายุประมาณ 83 ปี เสียชีวิตจากโรคชรา เสียชีวิตที่บ้าน วันที่ 21 ธันวาคม 2566
ศพที่ 6 ”นายหำ” อายุประมาณ 30 ปี เสียชีวิตเนื่องจากแน่นหน้าอก เป็นโรคลมชัก เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ต้นเดือนมกราคม 2567
ศพที่ 7 “นางคำ“ อายุประมาณ 80 ปี เสียชีวิตเนื่องจากโรคเบาหวาน โรคไตวายและชรา เสียชีวิตที่บ้าน วันที่ 8 มกราคม 2567
ศพที่ 8 “นายวิชัย“ อายุ 75 ปี เสียชีวิตเนื่องจากดื่มเหล้าหนัก เกิดอุบัติเหตุล้มรถจักรยานทำให้เส้นเลือดในสมองแตก เสียชีวิตที่บ้าน วันที่ 22 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 13.15 น.
ศพที่ 9 ”นายบรรดา ประจักษ์ศิลา“ อายุ 57 ปี เสียชีวิตเนื่องจากดื่มเหล้าหนัก เสียชีวิตที่วัดโพธิ์ศรีสะอาด วันที่ 22 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 13.30 น.
โดยทั้ง 9 ศพ แน่นอนว่าใช้บริการโลงเย็นของบริษัทเดียวกัน วันนี้ทีมข่าวจึงมีโอกาสได้พูดคุยกับตัวแทนโลงเย็นบริษัทนี้ “นายอนันตฤทธิ์ บุญสิทธิ์“ บอกว่าโดยปกติในชุมชนละแวกนี้ไม่ได้มีบริษัทโลงเย็นเยอะ ชาวบ้านก็เลยมีการเลือกใช้บริษัทที่มีความคุ้นชิน สะดวกทั้งระยะทางและราคา บวกกับจากการบอกต่อๆกัน โดยที่บริษัทของตนจะมีโรงเย็นให้เช่า 2 แบบ แบบธรรมดาจะอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 บาท ถ้าชุดใหญ่ก็จะอยู่ที่ 8,500-9,500 บาท
แล้วตนมองว่าการที่คนในหมู่บ้านใดหมู่บ้านหนึ่งเสียชีวิตติดต่อกันหลายคน ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะจากข้อมูลของแต่ละคนก็มีสาเหตุของการเสียชีวิตที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแก่ หมู่บ้านอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ก็ตายติดต่อกันหลายศพ แต่ไม่ได้มีเรื่องความเชื่อแบบนี้
พร้อมกับยืนยันว่าตนไม่เคยทำพิธีบางอย่างเพื่อให้มีการตายต่อเนื่อง เพื่อหวังจะมีรายได้จากการเช่าโลงเย็น และโลงเย็นของตนแต่ละโลงก็ไม่ได้มีการลงอาถรรพ์อะไรไว้ ที่สำคัญคือบางศพก็ไม่ได้ใช้โลงเดียวกัน เพราะที่บริษัทมีโลงเย็นประมาณ 5 โลง หมุนเวียนกันใช้
ส่วน “นายสมบูรณ์ ประจักษ์ศิลา” อายุ 67 ปี พี่ชายของ “นายบรรดา“ ผู้เสียชีวิต เจ้าตัวมองว่าการที่ชาวบ้านในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกันนั้นเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เพราะแต่ละคนก็มี สาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน
อย่างน้องชายของตนแพทย์บอกว่าเสียชีวิตจากอาการไขมันอุดตัน เนื่องจากเป็นคนติดเหล้าดื่มเหล้าหนัก ไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่กินข้าวและพักผ่อนน้อย ซึ่งมันก็ตรงกับพฤติกรรมของน้องชายในแต่ละวัน
ส่วนเรื่องอาถรรพ์โลงเย็นนั้น ตนก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ เพราะทุกศพก็ใช้โลงของบริษัทเดียวกันจริง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้คิดแบบนั้น เพิ่งจะมาเอะใจก็ตอนที่เป็นข่าว แต่ถ้าถามว่ามันมีอะไรผิดปกติก่อนที่แต่ละศพจะเสียชีวิตไหม เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่มี ก็เลยไม่อยากให้เอามาเป็นประเด็นสำคัญ
ขณะที่ญาติอีก 2 ศพ ไม่เชื่อเรื่องอาภรรพ์โลงเย็น มองเป็นการเรียกใช้เพราะราคาเบา สะดวกมากกว่า และทุกศพก็มีสาเหตุการเสียชีวิตและอาการก่อนตายชัดเจน
วันนี้ทีมข่าวเดินทางไปยังงานศพของ ”นายมีชัย“ ที่เสียชีวิตเมื่อวานนี้ในเวลาไล่เลี่ยกับ ”นายบรรดา“ ซึ่งเบื้องต้นศพยังตั้งสวดอภิธรรมอยู่ที่บ้าน เรามีโอกาสได้คุยกับนายวายุ ว่องไว อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นหลานของ ”นายมีชัย” และยังเป็นหลานของ “นางคำ” ผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ด้วย
เจ้าตัวก็มองเหมือนกับชาวบ้านอีกหลายคนว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีอาถรรพ์อะไร เพราะผู้เสียชีวิตมีสาเหตุของการตายที่ชัดเจนและก่อนที่ทุกคนจะเสียชีวิต ก็มีอาการบ่งบอกว่าร่างกายทรุดชัดเจน ยิ่งเป็นเรื่องของอาถรรพ์โลงเย็น ตนยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ เพราะนอกจากหมู่บ้านนี้ ก็ยังมีอีกหลายๆหมู่บ้านที่ใช้บริการโลงเย็นโลงเดียวกัน ของบริษัทเดียวกัน ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ
แล้วอีกอย่างคือครอบครัวของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนติดต่อไปหาบริษัทโลงเย็นเอง เพราะมองว่าบริษัทนี้ราคาสามารถจับต้องได้และสะดวกในการเรียกใช้งานก็เท่านั้น ซึ่งจังหวะที่เอาโลงมาติดตั้งหรือเอากลับ ก็ไม่เห็นว่าทางทีมงานจะมีการทำพิธีอะไรผิดแปลก
Advertisement