เผยวิธีเอาตัวรอดเมื่อเจอ "เสือโคร่ง" ในป่า หรือเจอ "สิงโต" ที่พัทยา ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยแพร่บทความสาระดีๆ เกี่ยวกับ วิธีการเอาตัวรอด เมื่อเจอ "เสือโคร่ง" ในป่า โดยระบุว่า
"หากได้ยินเสียงเสือขู่คำรามเตือน ให้ถอยฉากออกมาแล้ว "ใส่ตีนหมา" วิ่งหนีให้เร็วที่สุด วิิธีนี้เป็นวิธีการที่ได้ผลที่สุด ทำง่ายที่สุด และเข้ากับสัญชาตญาณเอาตัวรอดของมนุษย์เราอยู่แล้ว
แต่ถ้าไม่อยากวิ่ง อยากจะ "ใจดีสู้เสือ" ด้วยการยืนนิ่ง หรือค่อยๆ ฉากหลบหลังต้นไม้ ก็เป็นวิธีการที่ถูกต้องเช่นกัน หลายคนได้มีโอกาสคุมเชิงกับเสือแบบนี้ รอจนกระทั่งเสือเป็นฝ่ายล่าถอยไปเอง
ก่อนจะย้ำว่าการเจอเสือตัวเป็นๆ นั้นเป็นเรื่องยากแสนยาก จากการรวบรวมข้อมูลการวิจัยเสือที่พบว่าในเนื้อที่กว้างใหญ่ถึง 200 ตารางกิโลเมตร (125,000 ไร่) มีเสืออาศัยอยู่แค่ 3-4 ตัว เท่านั้น ดังนั้นโอกาสที่ใครสักคนจะเจอ "จอมหลบหลีกแห่งพงไพร" โดยบังเอิญ จึงยากพอๆ กับถูกหวยรางวัลใหญ่ และคนที่ถึงขั้นถูกเสือกัด โอกาสเกิดยิ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
อย่างไรก็ดี เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลข้างต้น "ผู้เขียน" คิดว่างั้นคงไม่ต่างกับการเจอ สิงโต ที่พัทยา โอกาสที่จะเจอบ่อยๆ คงยากพอๆ กับถูกรางวัลที่ 1 เช่นกัน แต่หากบังเอิญได้เจอดังที่ปรากฏเป็นข่าวดัง วานนี้ (23 ม.ค.67) แล้วล่ะก็
แนะนำให้โทรแจ้ง "สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 พร้อมให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง" เมื่อพบเหตุเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่า และเลี่ยงออกจากพื้นที่ดังกล่าวทันทีเพื่อความปลอดภัย
Advertisement