ตำรวจสอบสวนกลางยืนยัน ตั้งคณะพนักงานสอบสวนกองปราบช่วยคดีตบทรัพย์ศรีสุวรรณ ไม่เกี่ยวข้องผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่
พลตำรวจตรีณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงกรณีที่ พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวว่า เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเคสใหญ่ที่จะขยายวงกว้างออกไป และทาง บก.ปปป.อาจจะมีกำลังพลไม่เพียงพอ โดยคณะสืบสวนสอบสวนดังกล่าวมี พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งพลตำรวจตรีสุวัฒน์ รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย รวมถึงคดีสำคัญต่างๆของกองปราบอยู่แล้ว และเป็นไปเพื่อให้ห้สามารถระดมสรรพกำลังของตำรวจกองปราบเข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวนได้อย่างเต็มที่
ด้านพันตำรวจเอก บุญลือ ผดุงถิ่น รองผู้บังคับการปราบปราม ปฏิบัติราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ยืนยันว่าการตั้งคณะพนักงานสอบสวนในคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความกังวลว่าผู้ต้องหาจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เพราะในคดีนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือนที่เกี่ยวข้อง แต่การมีคณะพนักงานสอบสวนจะสามารถทำให้สืบสวนสอบสวนได้อย่างครอบคลุม ถือเป็นการสนับสนุนกำลังพลให้กับ ปปป.ให้มีความพร้อมมากที่สุด และหากมีการขยายผลไปยังบุคคลใดหรือพบการกระทำความผิดอื่นๆก็สามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากการบังคับการปราบปรามมีขอบเขตอำนาจในการปฏิบัติการได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ยืนยันว่า การตั้งคณะทำงานดังกล่าวไม่ได้เกิดจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือแรงกดดันใดๆ แต่เป็นการเพิ่มศักยภาพการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าวให้กับ บก.ปปป.ซึ่งมีกำลังจำกัดสำหรับคดีที่ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เซ็นหนังสือคำสั่งดังกล่าว ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยแต่งตั้งให้พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นหัวหน้าคณะทำงาน และให้พลตำรวจตรี จรูญเกียรติปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน นอกจากนี้ยังมีการดึงหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามาช่วยคดี ทั้งกองบังคับการปราบปราม, กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดยกองบังคับการปราบปรามจะเข้ามาช่วยดูงานสืบสวนสอบสวน และช่วยทำสำนวน ส่วน บก.ปอท.จะช่วยดูงานตรวจพิสูจน์และดึงข้อมูลทางเทคนิคจากอุปกรณ์สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา พยาน ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว.
Advertisement