จบสวย! กะเทยฟิลิปปินส์ ไม่เอาเรื่อง น้องแชมป์ ฮีโร่กะเทยไทย ไกล่เกลี่ยลงตัวแฮปปี้เอนดิ้ง ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง ขอจบเพียงเท่านี้
จากกรณี กะเทยฟิลิปปินส์รุมทำร้าย กะเทยไทย เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา จนเกิดกระแสความไม่พอใจ และกลายเป็นกระแสร้อนแรงในโซเชียลจน #สุขุมวิท11 พุ่งไม่หยุด
ทำให้ กะเทยไทยจำนวนมาก ไปรวมตัวหน้าโรงแรมที่พักของ กะเทยฟิลิปปินส์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ต้องเข้าพื้นที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 6 มี.ค. 67 ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5. ได้นัดผู้เสียหาย ซึ่งเป็นกะเทยฟิลิปปินส์ และ น้องแชมป์ ฮีโร่กะเทยไทย ที่ทำหน้าที่คุ้มครองกะเทยไทยจนโดนตำรวจจับ มาเจรจาไกล่เกลี่ย
โดย พล.ต.ต.วิทวัฒน์ กล่าวการเจรจาวันนี้เป็นความประสงค์ของผู้เสียหาย คือกะเทยฟิลิปปินส์ และผู้กระทำความผิดคือ น้องแชมป์ได้มาพูดคุยกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยของกระทรวงยุติธรรมมาช่วยดำเนินการที่ สน.ลุมพินีด้วย ถือเป็นนิมิตรหมายและแนวดน้มที่ดัที่การเจรจาเป็นไปด้วยดีตามความประสงค์ของทั้งสองฝ่าย ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บจริงๆ ไม่ติดใจดำเนินคดีกับ น้องแชมป์ และทางน้องแชมป์ได้แสดงความรับผิดชอบช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล 1 หมื่นบาทให้ผู้เสียหาย ในส่วนของเสียหายนอกจากไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับน้องแชมป์แล้วยังรวมถึงบุคคลอื่นที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย ถือเป็นสิ่งที่ดี
จากนี้ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายว่าจะพักต่อ หรือจะสามารถเดินทางกลับได้ตามสิทธิ์ แต่ทางแพทย์มีความเห็นว่าให้รักษาตัว 14 วันส่วนที่ชาวฟิลิปปินส์ถูกฟ้องดำเนินคดีที่ศาล ตอนนี้ฟ้องศาลเรียบร้อยแล้ว ศาลปรับคนละ 5,000บาท กระบวนการต่อไปคือนำส่งตัวไปที่ ตม. เพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
ด้าน กะเทยฟิลิปปินส์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนอยากจะจบปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างด้วยดี และอยากมีความสัมพันธ์ที่เป็นเพื่อนกันด้วยดี อยากจบปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง
เมื่อถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะอะไร กะเทยฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เขารู้สึกช็อกและทำตัวไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากเหตุการณ์นี้ ตนยังไม่มีแพลนที่จะกลับมาประเทศไทยอีกหรือไม่ แต่หลังจากนี้จะเดินทางกลับประเทศฟิลิปปินส์ทันที
ขณะที่ นายแชมป์ กล่าวว่า ทางส่วนตัวขอขอบคุณผู้เสียหายที่ยอมไกล่เกลี่ยทำให้ตนไม่มีคดีความผิด เมื่อจบลงแบบนี้ทำให้ความสัมพันธ์ต่างๆดีขึ้น ส่วนตัวก็ได้ชดใช้ค่าเสียหายเรื่องการรักษาพยาบาล 1 หมื่นบาท โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้เรียกร้อง แต่ตนตั้งใจให้เอง เบื้องต้นตนได้ขอโทษ เพราะสิ่งที่ทำไปเป็นความรุนแรง ตอนนั้นมีอารมณ์โกรธ แต่พอมาคุยกันแล้วพบว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีและไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง ขอจบเพียงเท่านี้
จากนั้น นายแชมป์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้วก็สบายใจขึ้น พอไกล่เกลี่ยก็ยอมกันทั้งสองฝั่ง ทั้งตนและเพื่อนๆที่ไปรวมตัววันนั้นจะได้ไม่มีคดีความเกิดขึ้นอีกแล้ว ตนเป็นคนยื่นไกล่เกลี่ยตั้งแต่แรก และทางฝั่งเขาก็ยอมไกล่เกลี่ย ซึ่งเขาไม่ใช่กลุ่มที่มายั่วยุตอนแรก เพียงแต่เป็นชาวฟิลิปปินส์พักที่เดียวกัน
Advertisement