ไฟไหม้ ตลาดสี่มุมเมือง คนงานหนีตายวุ่น เด็ก 4 ขวบ พร้อมน้า สำลักควัน เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 1ราย
วันที่ 12 มี.ค. 67 พ.ต.ต.วิมล สมบูรณ์ สารวัตรสอบสวน สภ.คูคต ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ ร้านขายผัก ภายในตลาดสี่มุมเมือง ตลาดผักต่างประเทศ 1 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลต่างๆ รถดับเพลิงของ ตลาดสี่มุมเมือง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุบริเวณตลาดผักต่างประเทศ 1 เจ้าหน้าที่พบไฟกำลังลุกไหม้ที่ทำเป็นห้องแถวล็อก MV10-MV19 ซึ่งเป็นตลาดขายผักต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงรีบระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลาม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบลง
จากการตรวจสอบพบว่า เพลิงได้ไหม้ผัก และของที่อยู่ในห้องทั้งหมด 10 ห้อง ในเบื้องต้นได้รับแจ้งว่า มีเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ สำลักควันเสียชีวิต ศพอยู่โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส และน้าของเด็กหญิงอีก 1 คน สำลักควันเสียชีวิต ศพอยู่โรงพยาบาลปทุมธานี นอกจากนี้ยังมีคนงานชาย 1 ราย ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาด้านขวา นำส่งโรงพยาบาลประชาธิปัตย์
จากการสอบถามนายจิตกร ซึ่งอยู่ที่ร้านผักสด กล่าวว่า มีเด็กขึ้นไปเล่นในห้องเอกสาร เกี่ยวกับบิลและเทปพันของ แต่ก็ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่าเด็กที่ขึ้นไปเล่นเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้หรือไม่ ซึ่งเด็กที่ขึ้นไปเล่นนั้น เป็นเด็กจากร้านอื่นไม่ใช่ร้านตน เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าความเสียหายประมาณเท่าไร ต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งร้านตนเป็นร้านขายผักที่นำเข้าจากต่างประเทศ
ด้าน น.ส.ปณาลี ภัทรประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการ กลุ่มงานกลยุทธ์ ตลาดสี่มุมเมือง กล่าวว่า ทุกอย่างเราควบคุมได้ภายใน 30 นาที สิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งที่ได้รับรายงานว่า มีผู้สำลักควัน 2 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ทางตลาดขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ไฟดับหมดแล้ว สาเหตุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ไม่ได้ใหญ่มากแค่ 10 ห้อง และทางตลาดก็มีรถดับเพลิง ซึ่งสามารถเข้ามาควบคุมเพลิงได้เร็วมาก ตลาดเรามีทั้งหมด 20 ตลาดจุดที่เกิดเหลิงไหม้เป็นเพียงส่วนเล็กในแค่ 1 ตลาดเท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.ต.วิมล สมบูรณ์ สารวัตรสอบสวน สภ.คูคต ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งกันพื้นที่ ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป และได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจะให้เจ้าหนา้ที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
Advertisement