อัจฉริยะ ร้อง มหาดไทย สอบใบอนุญาตซื้อและครอบครองปืน 200 กระบอกของ บิ๊กโจ๊ก ฟันธง!! ไม่รอดเกินเดือน พ.ค.นี้
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอให้มีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่นายทะเบียน ที่ออกใบอนุญาตซื้อและครอบครองอาวุธปืน ใบ ป.3. และ ป.4. ให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. จำนวน 200 กระบอก
นายอัจฉริยะ อ้างว่า เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริง จึงอยากให้กระทรวงมหาไทย ตรวจสอบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีปืน 200 กระบอกจริงหรือไม่
ส่วนอีกประเด็น คือ เหตุแจ้งต่อนายทะเบียนเกี่ยวกับการครองครองปืน 200 กระบอกนั้น มีเหตุผลและวัตถุประสงค์ตรงกับที่ยื่นขอหรือไม่ เพราะมองว่าเป็นความผิดปกติที่คน ๆ เดียวจะครอบครองปืนมากมายขนาดนี้ เพื่อนําไปพิสูจน์ทราบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีการกระทําความผิดในเรื่องนี้หรือไม่
ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะ ยังฟันธงด้วยว่า “บิ๊กโจ๊ก ไม่รอดล้านเปอร์เซ็นต์” เนื่องจากหลักฐานที่มี ตอนนี้ได้มาจากลูกน้องคนสนิทและเจ้าของเว็บพนันต่างๆ ที่มีเอกสารหลักฐานมากกว่า 1 แสนแผ่น รวมถึงมีข้อมูลรัดกุมชัดเจน ว่า เกี่ยวโยงถึงใครบ้าง พร้อมยันยันว่าไม่รอดเกินเดือนพฤษภาคมนี้
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติภารกิจเจอนายกรัฐมนตรีและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายอัจฉริยะ ระบุว่า ไม่เกี่ยวกับท่านทั้งสอง เพราะเรื่องนี้เป็นนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งพนักงานสอบสวบทําอย่างตรงไปตรงมา และขอฝากถึงทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วยว่า ขอให้รีบเปิดเส้นทางการเงิน เพราะส่วนตัวเชื่อว่า ถ้าเปิดแล้ว ทีมทนายถูกดําเนินคดีอย่างแน่นอน
ส่วนเส้นทางการเงินที่จะเปิดในวันพรุ่งนี้ (20มี.ค.)นั้น ตนทราบแล้วว่าเป็นขอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และครอบครัว ที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งตนมีข้อมูลอยู่แล้ว และตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วว่า ผบ.ตร. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับขอเตือนด้วยว่าการนําข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของ ผบ.ตร.หรือใครมาเปิดทั้งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมีความผิดชัดเจน
ทั้งนี้นายอัจฉริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันศุกร์นี้ (22มี.ค.) ตนจะแสดงของจริงให้ดูว่า “เปิดทีเดียวตายเรียบ ของผมน่ะของแท้ ไม่มีการมานั่งตกแต่งบัญชีเหมือนใครบ้างคน“
Advertisement