เปิดใจ พ่อ-เมียนายเปา ชี้แจงไม่ได้ดักยิง แต่ถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกายขับรถจี้ตามกว่า 7 กก.
เปิดใจ พ่อ-เมียนายเปา ชี้แจงไม่ได้ดักยิง แต่ถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกายขับรถจี้ตามกว่า 7 กก.
คอนเทนต์แนะนำ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 พ.ค.67 ผู้สื่อสื่อข่าวลงพื้นที่เข้าพบนายเต่า อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายเปา ผู้ก่อเหตุ อายุ 35 ปี ใช้อาวุธปืน CZ ขนาด 9 มม. รัวยิงนายศรายุธ ศรีวิเชียร อายุ 42 ปี พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองไทรม้า จำนวน 5 นัด ขณะขับรถเทศบาลกระบะโตโยต้าเทศบาลตำบลไทรม้า กอง สาธารณสุขสิ่งแวดล้อม ทะเบียน กล4639 นนทบุรี ออกตรวจแผนเก็บขยะ ที่เกิดเหตุบริเวณ ภายในซอยบางรักน้อย 17 ต. บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี
นายตู่ (นามสมมุติ) พ่อผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้เรื่องเพราะตนไม่ได้อยู่ที่นี่ วันนี้ตนไปทำงานอยู่ที่สุพรรณบุรี ทางเมียลูกชายโทรไปบอกตนว่าลูกมีเรื่อง ตนจึงขับรถจากสุพรรณมาที่นนท์ ตนพึ่งมาถึงบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรมาหาบอกว่าให้พาลูกมาโรงพัก แต่ตนยังไม่ได้เจอลูกตนเลย และบอกว่าลูกตนมีปืน ตนรู้ว่าลูกตนผิดก็ว่ากันไปตามกฏหมาย แต่ใดๆนี้ก่อนจะเกิดเรื่องต้องมีเหตุและผล ตอนนี้ตนได้โทรไปหาญาติพี่น้องหมดทุกคนว่าถ้าลูกชายตนไปหาใครที่ไหนให้โทรบอก ตนจะไปรับด้วยตนเอง ตนให้ความมือเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่ทำผิดก็ต้องยอมรับ แต่จะให้หาตัวลูกชายตอนนี้ตนหาไม่ได้ ตนนี้น่าจะยังตื่นตกใจอยู่ แต่ได้บอกกับตนว่าจะไปอยู่กับเพื่อนซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่ไหน ส่วนคู่กรณีรถเทศบาลที่เกิดเหตุตนก็เป็นหลานแท้ๆ แต่ตนไม่รู้เรื่องราว เพราะต่างคนต่างทำงาน และไม่รู้ว่าเขาไปทะเลาะกันตอนไหน ส่วนสาเหตุหลังเกิดเหตุทางลูกตนก็ได้โทรมาคุยก่อนจะทิ้งโทรศัพท์แล้วหายตัวไป โดยเล่าเหตุการณ์ว่า ทางคู่กรณีรถของเทศบาลขับรถมาจี้ตูดทำท่าจะชนแล้วก็เบรก ซึ่งมีปัญหากันตั้งแต่ตสะพานมาจากพระนั่งเกล้าแล้ว ก่อนขับตามเข้ามาเกือบถึงที่บ้านตน ตนมองว่ารถเทศบาลจากไทรม้าแต่ขับตามมาถึงนี่มาเพื่ออะไร มาเพื่อทะเลาะ ถ้าไม่ตามมาก็ต่างคนต่างไป ที่ออกมาพูดแบบนี้ไม่ได้เข้าข้างลูกตัวเอง อันไหนผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย เรื่องนนี้ตนก็ไม่ได้เชื่อลูกตนทุกอย่าง และคนที่โดนยิงก็เป็นญาติกันอีกรู้จักกันหมด ได้ยินมาว่ามีเรื่องกันมาก่อนเมื่อ 10 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ตอนนี้ยืนยันว่าติดต่อลูกไม่ได้ ถ้าตนรู้ว่าลูกตนอยู่ที่ไหนแล้วปกปิดจะมาว่าก็มาว่าตนได้ ตนไม่ให้ลูกตนหนีอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็ต้องรอลูกติดต่อประสานมาเพราะโทรศัพท์มือถือของลูกทิ้งไว้อยู่ที่บ้าน
น.ส.ฝน (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ภรรยานายเปา ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 08.00 น. ตนและเปากำลังขี่จยย.ไปใส่บาตรที่วัดกลางบางซื่อ อ.เมือง จ.นนทบุรี แต่ว่าไปทำบุญไม่ทันพระได้ฉันท์ไปแล้ว จึงขับรถจยย.หิวถุงกับข้าวที่จะใส่บาตรย้อนมาจากวัดกลางบางซื่อเพื่อที่จะใส่บาตรทำบุญแถววัดไทรม้าเหนือ ปรากฎว่าพอมาถึงบริเวณแยกใต้สะพานพระนั่งเกล้าตัวเก่า ตนก็ได้ขับจยย.ปกติ ปรากฎว่ามีรถของเทศบาลขับพุ่งออกมาจากซอยแถวนั้น ทำให้รถเกือบชนกับตนที่ขี่จยย.มาตามปกติ แต่ไม่ได้ชนกัน จากนั้นรถเทศบาลคันดังกล่าวก็ได้ไปจอดรอรถตนที่ข้างทางแล้วโบกมือเรียกตนทำท่าทางแบบไม่พอใจ ตะโกนพูดว่า “ กูขอโทษและไม่จบเหรอ ”ทางแฟนตนก็ตอบไปว่า“ ก็จบแล้วไงขอโทษก็ขอโทษแล้วจะเอายังไง” จากนั้นตนก็ขับตามทางที่กลับบ้านตนปกติ แต่ถ้าคู่กรณีได้ขับตามไม่จบจี้ตูด ทำท่าทางเหมือนจะชนโดยขับตามมาตั้งแต่จุดที่มีปากเสียงกันจนกระทั่งเกือบถึงบ้านตนระยะทางประมาณ 6-7 กก. บริเวณซอย สไวพล ต.บางรักน้อย ขณะที่ถึงจุดดังกล่าวคู่กรณีได้ขับรถมาประกบข้างทำท่าทางเหมือนคล้ายจะหยิบอาวุธอะไรสักอย่างในลิ้นชักรถ ทางแฟนตนก็หยิบปืนขึ้นมายิงนึกว่าคู่กรณีมีอาวุธ หลังจากนั้นตนก็ได้จับมือแฟนยื้อห้ามไม่ให้ยิงต่อ จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุที่แฟนตนตัดสินใจยิงน่าจะเกิดจากการมีปากเสียงกันเพราะว่าทางคู่กรณี ขับจี้ตามมาตลอดพร้อมมีคำพูดว่า “ขับตามมาบ้านเพราะขะได้รู้ว่าบ้านมึงอยู่ไหนจะได้มาดักเล่นมึงถูก” ซึ่งถ้าคนไม่ได้คิดอะไรคงไม่ขับตามมาถึงยันบ้าน ที่ทางเขาอ้างว่ากำลังไปตรวจแผนขยะ แต่มาตรงจุดดังกล่าวมันคนละพื้นที่กันเลย ทั้งที่มีทางถึงเทศบาลแต่ก็ไม่ยอมไป ส่วนสาเหตุเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตนไม่รู้ว่าแฟนตนมีเรื่องกับเขามาก่อนหรือไม่ ตอนนี้แฟนไปอยู่ไหนตนก็ไม่รู้เพราะเขาทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่ตน ปกติแฟนตนเป็นคนใจร้อนแต่ตอนเกิดเหตุพยายามใจเย็นสุดๆแล้ว เพราะเขาขับตามมาหาเรื่องเองถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
Advertisement
