ผบช.ภ.8 ยัน จับ “แป้งนาโหนด” ตัวจริง คาดคืนนี้เค้นสอบทั้งคืน  

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ผบช.ภ.8 ยัน จับ “แป้งนาโหนด” ตัวจริง ที่ใส่หมวกปิดหน้า เพราะกฎหมายไทยบังคับไว้ คาดคืนนี้เค้นสอบทั้งคืน ก่อนนำตัวฝากขังพรุ่งนี้

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้แถลงข่าวความคืบหน้าจับกุมนายชวลิต ทองด้วง หรือ แป้งนาโหนด ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนนายชวลิต ทองด้วง ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

โดยภายหลังจากที่นายชวลิต ทองด้วง หนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 หลังจากที่หลบหนีไป เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายก็ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยหลายแห่งอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่าหลบหนีออกไปนอกราชอาณาจักร จึงประสานกับองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศหรือว่าอินเตอร์โพล ในส่วนของประเทศไทยได้รวบรวมพยานหลักฐาน เอกสารประกอบในการรับของความร่วมมือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซีย

จากนั้นคณะพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ได้รับคำสั่งจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ประเทศอินโดนีเซีย ติดตามจับกุมนายชวลิต ทองด้วง ได้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ในประเทศอินโดนีเซีย

และวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซีย ประสานกับองค์การตำรวจอาชญากรรมประเทศไทยอินเตอร์โพลไทยแลนด์ และผู้ช่วยเอกอัครราชทูต อินโดนีเซียประจำประเทศไทย ควบคุมตัวนายชวลิต ทองด้วง ผู้ต้องหานำส่งให้ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช

เมื่อนายชวลิต ทองด้วง ผู้ต้องหาเดินทางถึงท่าอากาศยาน กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองก็ได้ดำเนินคดี ในความผิดเรื่องไม่เดินทางออกทางราชอาณาจักรตามช่องทางที่ ตรวจคนเข้าเมืองกำหนดไว้ และไม่ผ่านการตรวจอนุญาต ของพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ก็ได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมรา ชในข้อหา หลบหนีไปในระหว่างการควบคุมตามอำนาจศาล และใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ และได้แจ้งสิทธิ์ ก่อนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ บันทึกภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว ระหว่างการจับกุม และแจ้งสิทธิ์รายละเอียดไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหา ออกจากท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช ก็เดินทางมาที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบหลังจากที่รับตัวแล้ว ก็แจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย ให้แพทย์ตรวจร่างกายดำเนินการพิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นก็เริ่มกระบวนการสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

หลังจากนั้นก็จะเป็นคณะพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ที่ตามมา แจ้งข้อกล่าวหา สอบสวนปากคำและทำการอายัดตัว ในคดีที่ เกิดขึ้นระหว่างการหลบหนี ในอดีตที่ผ่านมา รวม 3 คดี

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ผบช.ภ.8 ยังบอกว่า ในช่วงคืนนี้ คาดว่าก็คงจะมีการสอบสวนไปตลอดทั้งคืน ขณะนี้ทนายความ 2 คนที่ทางผู้ต้องหาร้องขอก็อยู่ระหว่างร่วมฟังการสอบสวนด้วย 

หลังจากที่สอบสวนเสร็จแล้ว และพนักงานสอบสวน จากตำรวจภูธรพัทลุง ดำเนินการสอบสวนเสร็จแล้ว ก็จะนำตัวเข้าห้องขัง โดยมีกล้องวงจรปิด และตำรวจคุมเข้มทั้งคืน ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้(5มิ.ย.) ก็จะนำตัว นายชวลิต ทองด้วง ไปยื่นคำร้องขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝากขัง เมื่อศาลได้พิจารณาคำร้อง และสั่งคำร้องแล้ว ก็จะเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะเป็นเจ้าหน้าที่จากเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช มาดำเนินการต่อ เมื่อนำตัวไปฝากขังแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะกลับไปเป็นฝ่ายสนับสนุน

ส่วนที่หลายคนกังวลว่าเป็น แป้งนาโหนดตัวจริงหรือไม่เพราะมีการปิดบังใบหน้าเมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ยืนยันว่า เป็น แป้ง นาโหนด ตัวจริง ซึ่งทางผู้ต้องหา ก็ได้ยืนยัน ว่าเป็นตัวเขาเอง และมีการถ่ายภาพนิ่งและบันทึกคลิปวิดีโอไว้

ส่วนที่ไม่มีการเปิดเผยใบหน้า และไม่ได้นำตัวมาแถลงข่าว เหมือนที่ถูกจับกุมอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 บอกว่า เป็นไปตามกฎหมายและสิทธิ์ของผู้ต้องหา ตามกฎหมายประเทศไทย

เมื่อนักข่าวถามว่า จะมีโอกาศเห็นใบหน้า แป้ง นาโหนด แบบที่ไม่ใส่หมวก หรือ ปิดบังใบหน้าหรือไม่ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ผบช.ภ.8 ยันยันว่า ไม่มีและจะพยายามไม่ให้มีเด็ดขาด เพราะกฎหมายไม่ให้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว เพื่อประณามเขา ทั้งๆที่คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด

ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาอ้างว่าหายไประวังถูกจับกุม ที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น เรื่องนี้ตำรวจยังไม่มีการตรวจสอบ