ตำรวจไซเบอร์รวบหลวงพี่นิยมฉันบวบ โชว์หวิวผ่านโซเชียล ค้นกุฏิเจอถุงยางและอุปกรณ์เสพยาเกลื่อน
สืบเนื่องจากมีการนำเสนอข้อมูลบนสื่อโซเชียลในลักษณะพาดหัว “เจริญโชว์*วยครับหลวงพี่ #ใส่สบงแล้วทรงโชว์*วย” ตำรวจไซเบอร์โดยกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า มีบัญชีแอปพลิเคชัน X (Twitter) ของผู้ใช้รายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพลามกอนาจารของตนเองในขณะสวมเครื่องนุ่งห่มคล้ายของพระภิกษุ และยังมีการโพสต์ภาพเด็กคล้ายสามเณร อีกด้วย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้เร่งสืบสวนกรณีดังกล่าวเพื่อนำผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนจนทราบว่าเจ้าของบัญชี X (Twitter) ดังกล่าวคือ นายวรุตม์ อายุ 24 ปี ชาวอำนาจเจริญ จากข้อมูลพยานหลักฐานพบว่าได้มีการโพสต์ภาพและวิดิโอลามกอนาจารในลักษณะร่วมเพศของชายรักชาย และยังมีการโพสต์ภาพที่มีสามเณรมานอนด้วยจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงว่าสามเณรดังกล่าวอาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายค้น
ต่อมาช่วงเช้ามืดของวันที่ 11 มิ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท.ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดสระแก้วที่ 94/2567 ลง 11 มิ.ย. 2567
เข้าตรวจค้นกุฏิของวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พบตัวนายวรุตม์ เป็นผู้พักอาศัย จึงได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาตรวจสอบ จึงพบบัญชี X (Twitter) ที่เปิดขึ้นใหม่ โดยนายวรุตม์อ้างว่าลบบัญชีเดิมไปแล้ว และยังตรวจพบบัญชีเฟซบุ๊กที่ใช้โพสต์ภาพลามกอนาจารอีกด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นในกุฏิยังพบอุปกรณ์เสพยา และถุงยางอนามัยอีกจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามสอบถาม จนนายวรุตม์ฯ ยอมเปิดเผยข้อมูลว่า ตนมีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย ซึ่งสมัยที่ตนจำวัดอยู่ที่วัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เคยมีการนัดพบเพื่อร่วมเพศกันเป็นบางครั้ง ปัจจุบันตนมีโรคประจำตัวคือโรคเอดส์ ซึ่งเคยติดเชื้อ HIV ตั้งแต่อายุ 17 ปี ส่วนอุปกรณ์เสพยาตนเคยเสพสมัยจำวัดอยู่ในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีคนเอามาให้ แต่ปัจจุบันเมื่อย้ายมาจำวัดอยู่ที่จังหวัดสระแก้วได้เลิกเสพแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”พร้อมตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
Advertisement