กรมการแพทย์เร่งรักษาให้ฟรี น้องน้ำเหนือ ป่วยโรคไฝยักษ์ตั้งแต่กำเนิด พ่อยันเปิดรับบริจาคจริง แต่ไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
จากกรณีมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้ประสานนายธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความช่วยเหลือในการส่งตัวน้องน้ำเหนือ เด็กชายวัย 6 ขวบ ที่เป็นปานดำ และมีอาการคันทั่วทั่งร่างกายให้ได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะโรคที่น้องเป็นอยู่
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 17 มิถุนายน 2567 น้องน้ำเหนือ อายุ 6 ปี คุณพ่อ และคุณตา เดินทางมาพร้อมมูลนิธิต้นอ้อ และเลขารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และเข้าพบกับแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ หน่วยงานโดยตรงที่จะให้การรักษาน้องน้ำเหนือ รวมถึงนายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ผศ.พิเศษ พญ.นุชนาฏ รุจิเมธาภาส หัวหน้างานโรคผิวหนังที่จะเข้ามาช่วยกันดูแลรักษาน้องน้ำเหนือร่วมกัน
โดยแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่า กรณีเคสของน้องน้ำเหนือนั้นเท่าที่ตรวจสอบดูเบื้องต้น เป็นลักษณะของโรคไฝยักษ์มีขนาดใหญ่และมีบางจุดที่กระจายเต็มตัว ต้องยอมรับว่าโรคนี้พบผู้ป่วยจำนวนน้อย แต่ก็สามารถรักษาได้ อย่างกรณีน้องน้ำเหนือจะต้องผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อ ที่บริเวณหลังไปตรวจสอบ แล้วจะเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งอาจจะเป็นการผ่าตัด หรือการใช้รังสีช่วย เพื่อตัดไฝ หรือก้อนเนื้อออกไปเพราะมีผลต่อการทรงตัวของน้อง ยิ่งปล่อยไว้นานก็จะส่งผลกระทบมาก และต้องยอมรับว่าการรักษาอาจจะใช้ระยะเวลานาน แต่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเรียน เพราะระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็จะมีบริการให้การศึกษาน้องควบคู่ไปด้วยรวมถึงจะมีที่พักสำหรับผู้ปกครองให้ฟรี และการรักษาน้องไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย โดยครอบครัวไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เลย
ด้าน ครอบครัวของน้องน้ำเหนือ ทั้งคุณตาและคุณพ่อบอกว่ารู้สึกขอบคุณทางกระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิเป็นหนึ่ง และนายธนกฤต เป็นอย่างมากที่ให้การช่วยเหลือ ที่ผ่านมาน้องใช้ชีวิตอย่างทรมาน เวลาอากาศร้อนก็จะคัน ที่บริเวณปานดำ แล้วก็จะทุบหลัง อย่างที่เห็นในคลิป
โดยพ่อของน้องน้ำเหนือหรือนายจักรพงษ์ หลงคำมา อายุ 42 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่ารู้สึกดีใจ ที่ หลายหน่วยงาน ให้การช่วยเหลือลูกชาย รวมถึงขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ ยืนยันว่าหลังจากนี้ ตนจะเป็นคนดูแลน้องน้ำเหนือขณะที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเด็กเอง โดยไม่ให้คุณตาของน้องต้องลำบากเดินทางไป-มา
ส่วนประเด็นเรื่องรับบริจาค ยอมรับว่ามีการเปิดรับบริจาคและมีการโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือจำนวน 110,000 บาท ยืนยันว่าไม่มีการ นำเงินที่ได้รับบริจาคนี้ไปใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ยังคงเก็บอยู่ในบัญชี และจะทำตามที่คุณต้นอ้อให้คำปรึกษาว่าจะต้องชี้แจงการใช้จ่ายเงิน ที่ได้รับจากการบริจาคทั้งหมด และได้ปิดรับบริจาคไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
Advertisement