เร่งค้นหาผู้สูญหายใน อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ล่าสุดยังไม่เจอตัว แต่พบรอยช้างป่า
คอนเทนต์แนะนำ
เร่งค้นหาผู้สูญหายใน อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ล่าสุดยังไม่พบตัว เผยผลการบิน-เดินเท้าค้นหา พบรอยช้างเหยียบป่ากล้วย เตรียมค้นหาต่อวันนี้
วันที่ 9 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการค้นหา นักท่องเที่ยวพลัดหลงที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ในเขตพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 67 ล่าสุดเฮลิคอปเตอร์ของ กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาประจำการช่วยค้นหาผู้พลัดหลงอยู่ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
นายทศพร ปภากุล ผอ.ส่วนอุทยานสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์บัญชาการค้นหาผู้พลัดหลงป่า อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่ไฟป่า ตชด. ทหารพราน รวม 61 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุดปูพรมค้นหา นาย ธัญวริช มะทีมา อายุ 27 ปี แต่ยังไม่พบร่อยรอย แม้ได้รับการสนับสนุนหน่วยบินเฮลิคอปเตอร์ จากกรมอุทยานฯ
ด้านนายฟารุต ใจทัศน์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินจำนวนรอบที่ 2 เพื่อค้นหานักท่องเที่ยวสูญหาย ผลจากชุดลาดตะเวนพื้นราบ 61 คน ชี้เป้า ต้นกล้วยล้ม จึงตรวจสอบภาคพื้นทางอากาศพบว่า ต้นกล้วยล้มนั้นเป็นผลจากสัตว์ป่าเหยียบเป็นช่วงๆ นักบินได้บินวนหลายรอบแล้ว ก็ไม่พบ ทุกอย่างเงียบสนิท หากปกติคนหลงป่า เมื่อได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ก็ควรอยู่ที่โล่งแจ้ง หรือรออยู่บริเวรลำห้วย เพื่อโบกมือขอความช่วยเหลือ
ส่วนอุปกรณ์ที่ค้นพบอยู่ในกระเป๋า คือเอกสารต่างๆ การทำงานและมีโน้ตบุ๊ก พร้อมของกิน มีสบู่ ยาสระผม แต่ไม่มีอุปกรณ์เดินป่า อาทิ เปลและเต็นท์หรือเครื่องดำรงชีพในป่า
จากสอบถามเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เดินค้นหา เปิดเผยว่า ผู้สูญหายเดินไปเพียงแค่เนินส่งญาติ หรือจุดแรกระยะ 650 เมตร และพบว่าได้เดินออกนอกเส้นทาง โดยเดินข้ามห้วย และถอดรองเท้าและกระเป๋าไว้ฝั่งตรงข้ามลำห้วย คาดว่า อาจตกหลุมจึงต้องถอดรองเท้าและวางกระเป๋าไว้ ซึ่งตรวจค้นรัศมีรอบๆ ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ บริเวณดังกล่าวก็ไม่มีหน้าผา หรือลำห้วยขนาดใหญ่แต่อย่างใด
โดย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รายงานผลปฏิบัติการค้นหาในวันนี้ว่า ได้มีการวางแผนและประสานหน่วยงานในพื้นที่ใกล้เคียงจัดกำลังชุดเจ้าหน้าที่ออกค้นหาจำนวน 4 ชุด รวม 61 นาย มีนายทศพร ปภากุล ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ เป็นผู้สั่งการปฏิบัติการค้นหาในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และได้รับการสนับสนุนการสำรวจทางอากาศยานด้วยเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินสำรวจ จำนวน 2 ครั้ง โดยรอบแรก เวลา 09.51 น. และรอบที่สอง เวลา 15.10 น. แต่ยังคงไม่พบร่องรอยผู้สูญหายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผอ.สบอ.11 เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ภาคสนามตรวจเช็กและทดสอบเครื่องมือสื่อสาร โดยเฉพาะวิทยุสื่อสาร ระบบ VHF เครือข่าย อส. ทั้งติดตั้งประจำที่และโมบายติดรถยนต์ ให้มีความพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง มาตรการความปลอดภัยรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะทางไกล พักแรมค้างคืน ให้มีการคัดกรองสุขภาพของนักท่องเที่ยว เช่น โรคประจำตัวที่เสี่ยงอันตรายในการเดินป่าระยะไกล ข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งของนักท่องเที่ยวและญาติใกล้ชิดที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ
พร้อมนี้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ยังได้พูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัวของนักท่องเที่ยวที่สูญหายด้วย
Advertisement
