ครูทั้งโรงเรียนเปิดหน้าสู้! ซัด ผอ.ฉาว อนาจารเด็ก ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงนักเรียนคงไม่รวมตัวแจ้งความ ขณะที่ครู "ต้องตา" คู่กรณี ยันไม่เคยมีปัญหาส่วนตัว
จากกรณีที่เพจอีซ้อขยี้ข่าว3 ได้โพสต์ภาพนักเรียนหญิง ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี 27 คน รวมตัวแจ้งความผู้อำนวยการโรงเรียน โดยอ้างว่าถูกผู้อำนวยการโรงเรียนลวนลาม ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ออกมาเปิดหน้าชน ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ลวนลามนักเรียนตามที่ ถูกกล่าวหา และอ้างว่าเป็นปัญหาภายในที่มีเรื่องขัดแย้งกับครูคนหนึ่ง
ล่าสุดครูทั้งโรงเรียน ก็เปิดหน้าชนผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมกับแถลงข้อชี้แจงว่า ต่อมาทีมข่าว เดินทางต่อไปที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อที่จะขอพูดคุยสอบถามกับคุณครูต้องตาที่ถูก ผอ.กล่าวหาว่า เป็นตัวการในการสร้างเรื่องว่าผอ.ไปกระทำอนาจารลวนลามนักเรียนหญิงทั้ง 27 คน
ผู้สื่อข่าวได้พบกับคณะครูหลายท่านที่พร้อมออกมาเป็นพยาน เล่าถึงการกระทำดังกล่าวของผอ.ให้ผู้สื่อข่าวฟัง โดยเริ่มที่คุณครูต้องตา คู่กรณีของผอ.ที่ถูกกล่าวหา เผยว่า ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับผอ.แต่อย่างใด ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมื่อเกิดเรื่องผอ.ถึงต้องพุ่งเป้ามาที่ตน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนแทบจะเป็นเลขาส่วนตัวของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่วันหนึ่งรู้สึกว่า ไม่อยากทำงานให้ผอ.คนนี้ต่อแล้วจึงหยุด หรือนี่เป็นเหตุผลที่ผอ.กล่าวโจมตีตน
ตนอยากถามกลับไปว่า ตนจะกลั่นแกล้ง ผอ.ไปเพื่ออะไร ถ้าเรื่องนี้ไม่มีมูลจริงตนคงไม่กล้าพูด ขอถามทุกคนเลยว่า ถ้าลูกศิษย์ของคุณเจอแบบนี้ คนเป็นครูจะนิ่งดูดายหรือจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกศิษย์ของตน
หากถามถึงผอ.ยอมรับว่าภายยนอกดูดี ส่วนตัวตนก็สนิทสนมเพราะมีบ้านติดกัน ที่ผ่านมามีเด็กมาเล่าหลายครั้ง ตนก็พยายามหาหลักฐานอยู่นาน หลังทราบเรื่องคณะครูรวมตัวกันไปพบ ผอ.สพป.เขต 2 ลพบุรี คณะครูได้พูดกล่าวด้วยวาจา พร้อมกับส่งคลิปหลักฐานต่าง ๆ ไปให้ทางสพป.เขต 2 ตรวจสอบ แต่เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่องจึงไม่นิ่งดูดาย รวมตัวกันพาบุตรหลานไปแจ้งความ
ส่วนเรื่องที่ ผอ.กล่าวหาว่า ตนใช้ห้องนาฎศิลป์แต่งหน้าทำผมนั้นยืนยันว่าจำเป็นต้องใช้ห้องดังกล่าวแต่งหน้าทำผมให้เด็กในชมรม ซึ่งตนแต่งหน้าทำผมให้เด็กทุกคนไม่ทัน จำเป็นต้องไปชักชวนเพื่อนให้มาช่วยแต่งหน้าเด็ก
ส่วนประเด็นที่ตนถูกผอ.แจ้งความใส่ก็ให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป ยืนยันไม่ใช่เป็นการก่อหวอดหรือปุกระดมให้นักเรียนหญิงออกมาสร้างเรื่องเพื่อบีบให้ผอ.ย้ายออกจากโรงเรียนแห่งนี้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ คุณครูต้องตา ยังเล่าอีกว่า ไม่ใช่แค่นักเรียนหญิงที่ถูกลวนลาม ตนยังเคยโดนผอ.ลวนลามด้วยการโอบเอว ลูบไล้ และชมสัดส่วน ร่างกายเช่นกัน แต่ส่วนตัวตนไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นความเมตตาของผอ.นักเรียนหญิงคนอื่นคงไม่คิดเช่นนั้น
คุณครูศลิษา ศุภัสภากรณ์ เล่าว่า มีครั้งหนึ่ง มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งไปทำอาสา แล้วโดนผอ.โอบเอวในระหว่างถ่ายรูปคู่ ซึ่งตอนนั้นมีนักเรียนชาย
ถ่ายด้วย แต่ผอ.ยืนห่างแล้วไปโอบเอวนักเรียนหญิงแทน หลังเหตุการณ์ก็มีนักเรียนหญิงหลายคนกล้าออกมาเล่าความจริงให้คณะครูฟัง มีนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เคยถูกลวนลามด้วยการใช้มือลูบไปที่หน้าอก ซึ่งนักเรียนหญิงคนนั้นได้ขู่ผอ. ไปว่าจะฟ้องครู ผอ.จึงรีบขึ้นรถหนีไป และไม่กล้ากระทำอีกเลย
ส่วนปัญหาเรื่องงานที่เกิดก่อนหน้า ผอ.คนนี้มักตัดสินใจคนเดียว ไม่ปรึกษาหรือพูดคุยรายละเอียดกับคณะครูก่อน อย่างเรื่องการสร้างอาคารต่าง ๆ ในโรงเรียน ผอ.คนนี้ ก็ไม่เคยชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน จนสุดท้ายไปกระทบกับเงินในการจัดกิจกรรมของโรงเรียน
ด้านคุณครูพิลาวรรณ สะอวยสะพุ ยอมรับทั้งน้ำตาว่า รู้สึกบีบหัวใจเหมือนดูแลลูกของเขาไว้ไม่ได้ ถึงขนาดที่นักเรียนชายต้องเข้าช่วยเหลือปกป้องนักเรียนหญิงแทน ตนที่เป็นครูจึงรู้สึกผิด โทษตนเองว่า ทำไมถึงปกป้องเด็กไว้ไม่ได้
ด้านนายภิญโญ กันหา ผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลพบุรีเขต 2 ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกกล่าวหายืนยันจะให้ความเป็นธรรม และดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอน ซึ่งข้อมูลที่ได้จากทางฝั่งผู้อำนวยการและคุณครูหัวหน้าชมรมนาฏศิลป์ของโรงเรียนที่เกิดเหตุก็ได้เข้ามาให้ข้อมูลไว้แล้ว โดยจะรวบรวมข้อมูลต่างๆส่งไปยังต้นสังกัดใหญ่ในกรุงเทพฯ ภายในวันพรุ่งนี้ (12ก.ค.) แต่ตนเองไม่ขอเปิดเผยว่าทางด้านครูหัวหน้าชมรมนาฏศิลป์ให้ข้อมูลอย่างไร ส่วนเรื่องนักเรียนที่ไปแจ้งความเอาผิดกับ ผอ. มีเพียงแค่เด็กชมรมนาฏศิลป์จริงหรือไม่นั้น ตนเองขอไปตรวจสอบก่อน
โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนที่ลงไปเก็บบันทึกข้อมูลไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้มาตรวจสอบ ประกอบกับนำข้อมูลการสอบปากคำเด็กนักเรียนทั้งหมดจากสหวิชาชีพและนักจิตวิทยามารวบรวม หากพบว่ามีมูลความผิดก็จะดำเนินการลงโทษตามวินัยต่อไป
Advertisement