พ่อสาวจีนดาวติ๊กต็อก เข้าสอบปากคำสน.บางรัก ด้าน ผกก. จ่อออกหมายจับ ยังมุ่งเป้าประเด็นชู้สาว-ชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรียกค่าไถ่
วันที่ 14 ก.ค. 67 ความคืบหน้ากรณีเหตุฆาตกรรรม น.ส.เหยียน รุ่ยหมิน ดาวติ๊กต็อกชาวจีนวัย 38 ปี ล่าสุดบรรยากาศที่ สน.บางรัก ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ พ่อของสาวชาวจีน พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตจีน เดินทางมาเพื่อเข้าพบกับพันตำรวจเอกจิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และพันตำรวจเอกธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.บางรัก เพื่อขอทราบรายละเอียดและแนวทางการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
พันตำรวจเอกธรรมศักดิ์ เปิดเผยว่าทางครอบครัวผู้เสียชีวิตและเจ้าหน้าที่สถานทูตจีน ยังยื่นคำร้องขอให้ทางตำรวจไทยเร่งสรุปสำนวนคดีและทำหนังสือถึงทางการจีน เพื่อให้ทางการจีนร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดนายชิงเหยียน ชายชาวจีน ผู้ต้องสงสัย ฐานฆาตกรรมชาวจีนด้วยกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้ใบแจ้งความกับตำรวจจีนแล้ว แต่ตำรวจจีนยังไม่รับแจ้งความ
ดังนั้นหลังจากที่ตำรวจไทยพิสูจน์ทราบยืนยันดีเอ็นเอผู้เสียชีวิตได้แน่นอนแล้ว ก็จะออกหมายจับผู้ต้องสงสัย และทำหนังสือรายงานเป็นหลักฐานไปยังสถานทูตจีน จากนั้นสถานทูตจีนก็จะประสานกับตำรวจจีนว่าจะทำการสอบสวนเองหรือไม่ หรือจะช่วยจับกุมและส่งตัวผู้ต้องสงสัยกลับมาดำเนินคดีในไทยก็ได้ ตาม MOU ที่ได้มีการลงนามกันไว้
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าญาติประสงค์ให้ทางการจีนดำเนินการมากกว่า เพราะทางครอบครัวสะดวกและอาจเพราะกฎหมายจีนมีโทษที่รุนแรง โทษหนักกว่ากฎหมายไทยด้วยส่วนหนึ่ง โดยโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
ทั้งนี้หลังจากหารือพูดคุยร่วมกับสถานทูตจีนแล้ว พนักงานสอบสวนได้ขอสอบปากคำครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย โดยจะขอสอบปากคำในประเด็นว่าเคยเห็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่ หรือทราบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องสงสัยกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ ตลอดจนประเด็นเรื่องประกันชีวิตและการได้รับผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นครอบครัวยืนยันว่าไม่เคยเห็นผู้ต้องสงสัยมาก่อน และ ผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้แจ้งกับครอบครัวว่าเดินทางมาไทยด้วยวัตถุประสงค์ใด เพราะความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ค่อยดี ส่วนตัวผู้ต้องสงสัยก็เดินทางมาจากสิงคโปร์ จึงไม่ทราบว่าเป็นแฟนกันหรือไม่ และยังไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก
อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนยังคงให้น้ำหนักแรงจูงใจในการก่อเหตุ เป็นเรื่องความขัดแย้งเชิงชู้สาว และประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนการเรียกค่าไถ่ เบื้องต้นยังเป็นเพียงเรื่องที่เพื่อนผู้เสียชีวิตคิดเผื่อสถานการณ์ไว้ให้ครอบครัวเตรียมพร้อม หลังผู้เสียชีวิตหายตัวไปเท่านั้น ยังไม่พบหลักฐานการเรียกค่าไถ่จริงๆ และจะรอสอบปากคำพี่เขยของผู้เสียชีวิตที่ได้รับแจ้งให้เตรียมเงินเผื่อถูกเรียกค่าไถ่ ซึ่งจะเดินทางมาไทยในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้
ส่วนการออกหมายจับ เชื่อว่าสามารถออกได้แน่นอนหลังพิสูจน์ทราบตัวผู้เสียชีวิตแน่ชัดแล้ว โดยผู้บังคับบัญชาจะเร่งรัดผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอกับสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจไปแล้ว หากตรวจดีเอ็นเอได้ ก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผ่านชิ้นส่วนศัลยกรรม ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการศัลยกรรมในไทย หรือทำมาจากจีน.
Advertisement