เผาแล้ว 4 เหยื่อ อดีตผอ.โรงเรียนปืนดุ บุกยิงดับยกครัว เปิดคำสั่งเสียทนายป้อม ขณะที่หลานสาวสานฝัน ลุยเรียนต่อกฎหมายจนจบ
จากกรณี นายปฐพี มีบาง หรือ ผอ.เขี้ยว อายุ 52 ปี อดีตผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด บุกยิงผอ.เหมียว อดีตภรรยา สามีใหม่ และครอบครัวเสียชีวิต จำนวน 4 ราย ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านพัฒนา หมู่ 8 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นได้หลบหนีไป ก่อนพบยิงตัวเองเสียชีวิต พื้นที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 67 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 27 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพิธีบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพ นายปรมัตถ์ สามัญ หรือ ทนายป้อม 1 ใน 4 ผู้เสียชีวิต ภายในวัดมหาพุทธาราม ต.เมืองเหนือ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพิธีบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพทนายป้อมเริ่มประมาณเวลา 14.00 น. โดยเป็นฟังพระธรรมเทศนา จำนวน 1 กัณฑ์ หลังจากเป็นการสวดมาติกา–บังสุกุลทอดผ้าบังสุกุล และวางดอกไม้จันทน์ตามลำดับ ซึ่งพิธีการดังกล่าวจัดขึ้นภายในศาลาการเปรียญของวัดฯ
หลังจากพิธีดังกล่าวแล้วเสร็จเวลาประมาณ 16.00 น. ครอบครัวญาติพี่น้องของทนายป้อมได้ช่วยกันแบกโลงศพเคลื่อนศพไปยังเมรุวัด และทำการฌาปนกิจตามพิธีกรรมทางศาสนาท่ามกลางบรรยากาศอันโศกเศร้าของครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายที่มาร่วมงาน ซึ่งแม่ของทนายป้อมอยู่ในอาการเสียใจ และหลั่งน้ำตาร้องไห้ตลอดพิธีในครั้งนี้
น.ส.อารียา สาสังข์ หลานสาวของทนายป้อม เปิดเผยว่า ทนายป้อมเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก และคอยให้กำลังใจผู้อื่นอยู่เสมอ ดังเช่นตนตั้งแต่ที่พ่อได้เสียชีวิตไปเหลือเพียงแม่ และน้องชาย ทนายป้อมก็เป็นผู้ส่งเสียค่าเทอม และนำตนมาฝึกทำงานด้วย เพราะตัวของทนายป้อมเองไม่มีบุตร จึงอยากให้หลานทั้งสองคนเดินตามเส้นทางอาชีพทนายของตน และคอยย้ำเสมอว่าให้หลานตั้งใจเรียน เพื่อจะได้มีความรู้และเป็นทนายที่มีคุณภาพ ซึ่งตนและน้องจะตั้งใจเรียนให้จนและสอบใบประกอบวิชาชีพทนายความให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทนายป้อมเป็นห่วง และแกพูดทุกวัน ซึ่งตนจะทำให้สำเร็จ
ด้านบรรยากาศงาน ฌาปณกิจศพของ น.ส.ดวงเดือน โกกะพันธ์ หรือ ผอ.เหมียว อายุ41 ปี อดีตภรรยาของผอ.เขี้ยว พร้อมกับนางหยกมณี โกกะพันธ์ อายุ 66 ปี แม่ของผอ.เหมียว และนาย บุญเลื่อน อภัยพงษ์ อายุ 61 ปี น้าเขยของผอ.เหมียว ที่วัดบ้านหอย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจเช่นกัน
มีบรรดาญาติๆ เพื่อนพ้องน้องพี่ลูกๆ หลานๆ และคณะครูมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายกันอย่างเนืองแน่น โดยมีการแสดงรำไทยหน้าศพ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอีกด้วย
Advertisement