หวิดซ้ำรอยน้องชมพู่! น้องพายุ 3 ขวบ เดินตามหมา 3 ตัว จากบ้านไกล 3 กม. โชคดีชาวบ้านพบ รอดตายปาฏิหาริย์ หวั่นเกิดเหตุร้ายเหมือนข่าวดัง
จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “ข่าวบ้านผือ” ได้โพสต์คลิปภาพ และระบุข้อความว่า “#อุทาหรณ์ #แม่เลี้ยงเดี่ยว #แม่วัย30ปี #เผลอหลับ #ลูกน้อยวัย3ขวบ #เดินตามหมา2ตัว #ไปไกลถึง3กิโลเมตร #โชคดีมีคนไปเจอขณะเล่นน้ำกลับหมาในนาข้าวของเด็กปลอดภัยดี #เหตุเกิดที่เถียงนา(สวนยาง) #ไม่มีเลขที่บ้านเทื่อมหมู่ 12 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี #เด็กหาย ช่วงเวลา 16.00 น. มีคนแจ้งเจอเด็กเวลา 19.30 น. วันที่ 31 ก.ค. 67 โดยเด็กปลอดภัยดี
ต่อมาวันที่ 2 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังกระท่อมสวนยางท้ายหมู่บ้าน ม.12 บ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นกระท่อมไม้ยกพื้นสูง พบกับ น.ส.ณัฐธิดา หรือ เนย อายุ 23 ปี ชาวต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมด้วย น้องพายุ อายุ 3 ขวบ 3 เดือน พร้อมด้วยยายและตาของน้องพายุ พากันมารับจ้างกรีดยางให้นายจ้างและเลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์ทางไว้เฝ้ากระท่อมสวนยางทั้งหมด 4 ตัวทั้งหมด มีสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากผ่านนาทีชีวิต
หลังจากน้องพายุเดินตามสุนัขที่เลี้ยงไว้ 3 ตัว ผ่านไร่มันป่าโคก และนาข้าว ห่างจากบ้านไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนมีคุณป้าชาวบ้านเชียงเพ็ง ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี พบกำลังเล่นน้ำอยู่ในแปลงนาข้าวท้ายหมู่บ้านเชียงเพ็ง กับสุนัข 3 ตัวอย่างสนุกสนาน และพาไปอาบน้ำป้อนข้าวอยู่ในกระท่อมนา ก่อนโทรแจ้งมาทางผู้นำชุมชนบ้านเทื่อม ต.เขือน้ำ ประสานผู้ปกครองให้มารับกลับบ้าน
ซึ่งต่างพากันพูดถึงเรื่องที่น้องพายุรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ และโชคดีที่ไม่เสียชีวิตเหมือนกับน้องชมพู่ที่เดินตามสุนัขไปเสียชีวิตบนภูเขา และล่าสุดก็เกิดเหตุกับน้องธันวาอายุ 2 ขวบเศษ ชาวอ.หนองหาน จ.อุดรธานี เดินตามสุนัขแล้วพลัดตกสระน้ำเสียชีวิต
โดยในวันนี้นางจำปี พันนารัตน์ กำนัน ต.เขือน้ำ นายพิสิษฐ์ ทองหอม ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 บ้านเทื่อม นำผู้สูงอายุในหมู่บ้านเทื่อม รวมทั้งนางเพียงใจ โพธิ์เพชรเล็บ หรือ ป้าเอ๋ อายุ 55 ปี ชาวบ้านเชียงเพ็ง ต.เชียงเพ็ง อ.กุด จับผู้พบ และช่วยเหลือน้องพายุพากันผูกแขนเอิ้นขวัญน้องพายุให้กลับบ้าน และมาอยู่กับเนื้อตัวที่แคร่ไม้ข้างกระท่อมสวนยาง โดยให้น้องพายุนั่งอยู่บนตัก น.ส.เนย ผู้เป็นแม่ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความปิติดีใจของครอบครัวน้องพายุ โดยเฉพาะ น.ส.เนย และยายของน้องพายุที่ไม่สูญเสียน้องพายุไป และรอดตายราวปาฏิหาริย์
นางเพียงใจ ผู้พบน้องพายุ เล่าว่า ขณะตนอยู่ที่คอกควาย และกำลังจะเดินกลับบ้าน ซึ่งอยู่ที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านเชียงเพ็ง และห่างจากสวนยางน้องพายุประมาณ 3 กิโลเมตร ได้ยินเสียเด็กเล่นน้ำกับสุนัขในแปลงนาข้าวของตนที่มีน้ำขังจากฝนที่ตกลงมาแทบทุกวัน ทีแรกคิดว่าโดนผีหลอก เพราะเวลาประมาณ 19.30 น. จะมีเด็กที่ไหนมาเล่นน้ำกับสุนัข และตอนนั้นไม่เห็นตัวน้องพายุ เพราะมีต้นข้าวบังจึงเดินไปดู ก็พบน้องพายุกำลังเล่นน้ำในแปลงนาที่ควายเคยนอนแช่น้ำประจำระดับน้ำก็สูงประมาณหน้าอกน้องพายุ ตนพยายามถามว่ามาจากไหน แต่น้องพายุก็พูดไม่ค่อยได้ และไม่รู้เรื่องตามวัย ก่อนนำมาที่กระท่อมนาอาบน้ำ และป้อนข้าว พร้อมกับประสานไปยังผู้นำชุมชนบ้านเทื่อม
จึงรู้ว่าเดินพลัดหลงตามสุนัขจากกระท่อมสวนยางพาราบ้านเทื่อมมา ตอนช่วงบ่าย 4 โมงเย็น และตอนนี้ผู้ปกครองและญาติรวมทั้งชาวบ้านและผู้นำชุมชนกำลังพากันขี่รถจักรยานยนต์ออกค้นหาน้องพายุ ไม่คิดว่าเด็กตัวแค่นี้จะเดินหลงทางมาไกลได้ขนาดนี้ โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย เพราะเส้นทางที่ผ่านมา ทั้งสระน้ำและป่าโคกป่ามันสำปะหลังนาข้าวที่บางแปลงมีน้ำท่วมขังสูง
“ส่วนสาเหตุน้องพายุน่าจะเดินตามสุนัขมาเรื่อยๆ หากน้องพายุเดินไปอีกประมาณ 50 เมตรก็คงพลัดตกสระน้ำอย่างแน่นอน ฝากถึงผู้ปกครองที่อยู่ตามกระท่อมนา และสวนยางพาราให้ดูลบุตรหลานที่ยังเล็กให้ดี และที่สำคัญอย่าเลี้ยงสุนัขจะเป็นการดีว่าและหากอยากเลี้ยงก็ควรผูกเอาไว้เวลาอยู่บ้านหรือกระท่อมนา และสวนหรือที่บ้านไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ขึ้นตามที่เป็นข่าวดังมาแล้วหลายครั้ง”
ขณะที่ น.ส.เนย แม่น้องพายุ เล่าว่า หลังจากตนไปรับน้องพายุมาจากศูนย์เด็กเล็กบ้านน้อยนาสี กลับมาที่กระท่อมสวนยาง ตอนนั้นตนมีอาการปวดฟัน และเหมือนจะเป็นไข้หวัด จึงกินยาแก้ปวดฟัน และยาแก้แพ้จึงเกิดอาการง่วงนอน เผลอหลับอยู่บนกระท่อมสวนยางพาราที่ตน และครอบครัวมารับจ้างกรีดยาง พอตื่นขึ้นมาประมาณ 16.00 น. ก็ไม่พบน้องพายุจึงเดินไปถามพ่อและแม่ที่กำลังกู้ยางก้นถ้วยอยู่ในสวนก็ไม่มีใครพบเห็น จึงพากันออกตามหาไปตามกระท่อมสวนยางที่อยู่ใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบ และไปแจ้งผู้นำชุมชนพาชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ออกค้นหาอยู่ประมาณ 3ชั่วโมง
”ก่อนจะได้รับข่าวดีจากชาวบ้านเชียงเพ็งว่า พบตัวน้องพายุ และตอนนี้อยู่ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านเชียงเพ็ง จึงพากันไปรับน้องกลับมาบ้าน ขณะออกตามหาตนก็บอกเจ้าที่เจ้าทางที่อยู่ตามสวนยาง และไร่มันสำปะหลังและปู่ย่าตายายให้ปกปักษ์รักษาลูกชายไม่ให้จมน้ำ เหมือนที่เป็นข่าว และก็รอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์ ขณะตนเห็นลูกชายก็น้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ ส่วนน้องพายุไม่ร้องไห้ เขาคงไม่รู้เรื่องราวตามประสาเด็กน้อย หลังจากนี้ก็จะดูแลลูก ไม่ให้ห่างจากตัว และจะผูกสุนัขไว้เวลาลูกอยู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้นอีกต่อไป”
Advertisement