หนุ่มคลั่ง! เสพยา 17 เม็ด เจอตร.สยบ ร้องเสียงหลง “เดี๋ยวผมตายพี่”  

นาที!ยิงปืนไฟฟ้าสยบหนุ่มคลั่งเสพยาบ้า 17 เม็ด ถือกรรไกรหน้าภ.จว.อุดรฯ เจอตำรวจสยบ ร้องเสียงหลง “เดี๋ยวผมตายพี่”

คอนเทนต์แนะนำ

สรุปคดี "แอม ไซยาไนด์" ศาลตัดสินประหารชีวิต วางยาฆาตกรรมเหยื่อ 15 ราย

จับพิรุธ ทนายตั้ม สัญญาทำแอปฯหวย “พี่อ้อย”เอกสารถูกตัดต่อ?

ส่อง 8 สถิติ "พรีเมียร์ลีก" ก่อนเปิดศึก นัดที่ 12

วันที่ 26 สิงหาคม 67 เวลา14.50 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองสภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายคุ้มคลั่งอาละวาดถือกรรไกรปลายแหลมร้องตะโกนโวยวายอยู่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ถ.ศรีสุข เทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.อุดรธานี ได้ล้อมชายคนดังกล่าวเอาไว้ แต่ชายคุ้มคลั่งไม่มีท่าทีจะยอมจำนน จึงประสานร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รองสวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำชุดเผชิญเหตุเข้าสนับสนุนไม้ง่ามเหล็ก และปืนไฟฟ้าเพื่อเข้าระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุพบนายไพรัตน์ หรือปอนด์ อายุ 41 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทา ไม่สวมรองเท้า มือซ้ายถือกรรไกรปลายแหลมกวัดแกว่งไปมาอยู่หน้าตึกกองบังคับการฯ ตำรวจพยายามตะโกนเจรจาให้วางกรรไกรลง และมอบตัวพยายามเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ แต่นายปอนด์ ยังมีอาการคลุ้มคลั่งร้องตะโกนโวยวายระหว่างที่นายปอนด์เผลอ นั่งลงข้างรถยนต์ที่จอดอยู่ตำรวจได้เดินอ้อมมาด้านหลัง ยิงปืนไฟฟ้าใส่ จนล้มลงก่อนที่ตำรวจจะกรูกันเข้ามาใช้ไม้ง่าม กดล็อกตัว ยึดกรรไกรและควบคุมตัวได้ในที่สุด

โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นนายปอนด์ ก็ร้องตะโกนเสียงหลงด้วยเจ็บปวดว่า “ผมยอมแล้วอย่าทำผม จะตายแล้วครับพี่ผมขอโทษครับพี่ เดี๋ยวผมตายพี่”

ก่อนหน้านี้ทราบว่านายปอนด์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีดำทองไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจากจ.หนองคาย ขี่รถมาเรื่อยๆ จนมาถึงอาคารกองกำกับการสืบสวนภ.จว.อุดรธานี นายปอนด์ ได้เดินขึ้นไปบอกตำรวจว่ามีคนจับลูกเมียตัวเองไป แล้วจะมาจับตัวเองอีกคนไปจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนตนตกใจ จึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกมาแจ้งตำรวจที่จ.อุดร แต่ระหว่างการพูดคุยตำรวจสังเกตเห็นท่าทีนายปอนด์ ผิดปกติคล้ายคนเสพยาเสพติด จึงขอตรวจปัสสาวะ นายปอนด์ จึงบอกว่าซื้อยาบ้ามา 20 เม็ดเสพไปแล้ว 17 เม็ดเหลือ 3 เม็ด จะเอามาให้ พอตำรวจจะตรวจปัสสาวะนายปอนด์ ได้ชักกรรไกรแล้ววิ่งออกไปที่ถนนศรีสุข แล้ววิ่งย้อนกลับมาที่หน้ากองบังคับการฯ

ระหว่างการควบคุมตัวนายปอนด์ ขึ้นรถกระบะตราโล่ นายปอนด์ได้พยายามต่อรองขอให้โทรศัพท์หายายที่จ.หนองคาย ตำรวจจึงต่อสายให้แต่ปลายสายเป็นพี่สาวนายปอนด์ ยืนยันว่าจะขอคุยกับยายถ้าไม่ใช่ยาย ก็เป็นลุงก็ได้ อยากให้ญาติผู้ใหญ่รับรู้ว่าตำรวจจะพาตนไปที่ไหน กลัวจะได้รับอันตราย อยากให้ญาติมาเซ็นเอกสารก่อนที่จะสารภาพเสียงอ่อยว่า“ตนคลั่งเพราะเสพยาบ้ามาไม่ได้นอนมา 2 วันแล้ว”

เบื้องต้นตำรวจได้นำตัวนายปอนด์ นำไปส่งรักษาอาการให้สงบที่รพ.ศูนย์อุดรธานีก่อนที่จะติดต่อญาติมาให้รับทราบพฤติกรรมและจะตรวจหาสารเสพติดใจร่างกายอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป