เพื่อนบ้านต่อไฟใช้ สายพังร่วงมาข้างบ้าน ทำหนุ่มถูกไฟดูดเสียชีวิต

เมียร้องขอความเป็นธรรม เพื่อนบ้านต่อไฟใช้ แต่สายไฟพังร่วงลงมาข้างบ้าน ทำสามีถูกไฟดูดเสียชีวิต เยียวยาไม่ลงตัว

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ทีมชาติไทย" ทำไม่ได้เจ๊า สปป.ลาว อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์

ชายคนสนิทหอบเสื้อผ้าเยี่ยม เจ๊พัช อีก ยันเป็น“เพื่อนสนิทผู้ซื่อสัตย์”

ความคืบหน้ากรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความขอความเป็นธรรม หลังจากเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา มีคนถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณพื้นที่ ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม

ระบุว่าสาเหตุจาก ผู้ที่มีอำนาจ สนิทกับการไฟฟ้า ได้ทำการลากจูงสายไฟจากที่บ้านตัวเองมาใช้อีกทีนึง และสายไฟได้เกิดชำรุด ร่วงมายังพื้นที่บ้านพาดกับต้นไม้ข้างบ้าน ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้แจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าให้มาตรวจสอบ การไฟฟ้าแจ้งว่าไม่มีสายไฟและไม่ดำเนินการตัดสายไฟออกให้ ยังปล่อยให้สายไฟอยู่บริเวณบ้านของนายยนต์ (ผู้เสียชีวิต) แจ้งไปทางเจ้าของที่เป็นเจ้าของสายไฟก็ไม่ดำเนินการ จนกระทั่งก่อนวันที่เกิดเหตุ ได้มีพายุเข้าบริเวณพื้นที่ ทำให้สายไฟล่วงจากต้นไม้ลงมา ทางนายยนต์พบเห็นในวันที่ 26 ส.ค. 67 จึงทำการหยิบยกขึ้นไปวางให้พื้นทาง เกรงจะเกิดอันตราย แต่ผู้เสียชีวิตกลับถูกไฟฟ้าจากเส้นนั้น ดูด จนหมดสติ ทางแพทย์และกู้ภัยได้ทำการช่วยเหลือ จนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

หลังจากนั้นเจ้าของสายไฟได้มาแอบตัด ในระหว่างที่บุคคลในบ้าน ไปรวมกันที่โรงพยาบาลเพื่อดูผู้เสียชีวิต ทางเจ้าของสายไฟในตอนแรกบอกยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง จนเมื่อไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายในการบำเพ็ญกุศล ทางเจ้าของสายไฟได้มาเจรจา แต่ไม่ยอมรับข้อเสนอ และยังบอกไม่ใช่ความผิดของตน เนื่องด้วยเจ้าของสายไฟเป็นผู้มีอิทธิพล และรู้จักผู้ใหญ่ในพื้นที่ ทางครอบครัว เกรงกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่รู้จะติดต่อสื่อยังไง จึงขอช่วยเป็นกระบอกเสียง  

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังพิธีสวดพระอภิธรรมศพ นายไพชยนต์ มีรักษา อายุ 43 ปี ผู้เสียชีวิตที่ถูกไฟดูด พร้อมได้พูดคุยกับ นางแววดาว จันทร์กระจ่าง อายุ 37 ปี ภรรยา เล่าว่า เมื่อคืนคู่กรณีเข้ามาคุย อ้างว่าขอให้เผาศพให้เสร็จก่อนค่อยมาคุยกัน ซึ่งหลายวันก่อนมีการตกลงกันที่โรงพัก แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ จึงตัดสินใจว่าจะขอเก็บร่างสามีไว้ไม่เผา เพื่อประท้วงแด่ความไม่ยุติธรรม

สำหรับสายไฟที่เข้าใจว่าเป็นของการไฟฟ้านั้น ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ของการไฟฟ้า เป็นของชาวบ้านที่เดินสายพาดผ่านไว้เพื่อใช้ในสวน เป็นการต่อสายมาจากหม้อแปลงส่วนบุคคลของคู่กรณี ตนเสนอให้ชดใช้เงิน 5 ล้านบาท แต่ถูกต่อรองเหลือเพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเราคิดว่าสิ่งที่เราสูญเสียหากเปรียบเทียบกับชีวิต 1 คน มันมากกว่านั้น เนื่องจากผู้ตายเป็นเสาหลักครอบครัว มีลูกอายุ 6 ขวบ ที่ยังต้องเรียน และยังมีภาระพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู

ด้านนายพิพัฒน์ มีรักษา อายุ 53 ปี (พี่ชายผู้ตาย) เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทั้งครอบครัวยังติดใจในการเสียชีวิตครั้งนี้ เนื่องจากสายไฟเส้นดังกล่าว พาดผ่านทางบ้านของผู้ตาย ระยะเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว ทางตนได้มีการแจ้งไปที่อบต.ในเขตที่รับผิดชอบ และทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้มาตรวจสอบพบว่าสายไฟดังกล่าว ไม่ใช่ของทางการไฟฟ้าแต่อาจเป็นของเอกชน

และทางไฟฟ้าได้มีการตรวจสอบในวันที่ทางอบต.แจ้งไปก็ไม่พบว่ามีกระแสไฟฟ้า แต่หลังจากไฟฟ้าช็อตน้องชายจนเสียชีวิต การไฟฟ้าอีกชุดรีบลงพื้นที่มาเก็บและตัดไฟฟ้าทันที ตนในฐานะพี่ชายตอนนี้อยากจะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวทั้งหมดเข้ามาแสดงความรับผิดชอบบ้าง เพราะน้องชายมีภาะต้องดูแลลูกยังเล็ก และพ่อที่แก่และป่วยอีก ทางครอบครัวและญาติก็ตัดสินใจเก็บศพน้องชายไว้ไม่ทำการฌาปนกิจ รอจนกว่าคดีจะสิ้นสุดน้องชายจะได้นอนตายตาหลับ และขออย่ามาเอาเปรียบคนที่ตายเลย พวกคุณทำผิดก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด.